เรียกได้ว่ายังคงเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ ที่หลายคนยังติดตามกันอย่างต่อเนื่อง หลังล่าสุดนักร้องดังอย่าง “แสตมป์ อภิวัชร์” ได้ออกมาเล่าเหตุการณ์สุดตกใจว่า ตนเองและภรรยาสาวถูกคุกคาม และได้หายหน้าไปจัดการเรื่องฟ้องร้องบุคคลดังกล่าว ซึ่งตอนนี้พร้อมเล่าแล้ว เพราะอีกฝ่ายไม่จบยังคงทำการคุกคามเหมือนเดิม แถมพ่อของฝ่ายหญิงยังมียศเป็นถึงนายพล พร้อมข่มขู่แสตมป์จะมีการยัดคดีให้ด้วย ท่ามกลางกระแสชาวเน็ตที่ติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง และวิจารณ์กันอย่างล้นหลาม อีกทั้งเรื่องราวนี้ยังไม่จบง่ายๆ เพราะยังมีประเด็นอื่นรวมถึงคนในวงการยังเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องราวเป็นมาอย่างไร วันนี้ทีมข่าวเดลินิวส์ออนไลน์จะสรุปให้อ่านกันค่ะ

สำหรับ “แสตมป์” ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวนี้อีกครั้งบนเวทีคอนเสิร์ต และเผยสาเหตุที่หายจากวงการไป เหตุเพราะมีบุคคลรายหนึ่งสร้างความเข้าใจผิดมากมาย เกี่ยวกับภรรยาของตนในวงการเพลงและนอกวงการเพลง ทั้งๆ ที่คู่กรณีไม่รู้จักกับภรรยาของตนเป็นการส่วนตัวมาก่อน และสร้างความลำบากใจมามากกว่า 10 ปี

จนกระทั่ง เมื่อปี 2565 ที่เพิ่มเข้ามาคือแฟนของบุคคลนั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งอยู่ในวงการเพลงวงหนึ่ง จึงทำให้บุคคลนั้นมีป้ายคล้องคอ และสามารถเดินเข้าหลังเวทีได้ตามอำเภอใจ แต่ในขณะที่ตนกำลังเล่นดนตรีอยู่บนเวทีนั้น 2 คนนี้จะเดินผ่านหน้าภรรยา บางวันก็จะสร้างสถานการณ์ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเป็นการส่วนตัว จึงทำให้ภรรยาแก้ปัญหาโดยการบอกผู้จัดงานว่า ขอไม่รับงานร่วมกับวงดนตรีวงนี้ไปก่อน

จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 66 เป็นเวลา 1 ปีต่อมา มีงานเฟสที่เดอะสตรีทรัชดา ตนต้องไปเล่นร่วมกับวงดนตรีวงนี้และขอยกเลิกไม่ทัน จึงทำให้ในงานสองคนนั้นบุกเข้ามาต่อว่าภรรยา อัดคลิปและนำไปบอกคนในวงการเพลงว่า บังเอิญเจอภรรยาตนหลังเวที และถูกคุกคามโดยไม่ทราบสาเหตุ ถึงอย่างไรภรรยาตนไม่เอาเรื่อง เลยขอให้การ์ดไปลาดตระเวนก่อน 1 ชั่วโมงว่ามีสองคนนี้ไหม และไม่นานหลังจากนั้น สองคนนี้ก็ลาออกจากวงดนตรีวงนั้นไป

ต่อมา เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2566 เจอบุคคลดังกล่าวดักรออยู่ที่งาน และทำเช่นเดิมคืออ้างว่าโดนภรรยาคุกคาม และไม่กี่วันต่อมาทั้งคู่ได้ไปรอดักเจ้าของที่ค่ายเพลงใหญ่ พร้อมเล่าว่าถูกคุกคามโดยภรรยาของตน จึงทำให้ทางผู้บริหารติดต่อมาเพื่อฟังเรื่องราวอีกด้าน และมองว่าฝั่งตนเดือดร้อนจึงไปขึ้นศาลเป็นพยานให้ กระทั่ง เมื่อ “แสตมป์” ไปที่ศาลและเจอพ่อของจำเลยเป็นทหารยศนายพลจากพิษณุโลกมาขึ้นศาลแทนลูก และบอกกำลังจะบรรจุเป็นองครักษ์ จึงบอกให้ตนและภรรยาถอนฟ้องลูกของเขา ถ้าหากไม่ถอนฟ้องจะโดนยัดคดีทางการเมือง ซึ่งกองทัพบกชี้แจงว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบอยู่

อีกทั้ง พ่อของจำเลยเคยขับรถไปที่บ้านแม่ของตนรวมถึงถ่ายรูปแม่ตนเก็บไว้ โดยภรรยาของนายพลท่านนี้ก็เคยดูคอนเสิร์ตตนและอยู่ในกลุ่มโอเพนแชท ซึ่งพวกตนโดนครอบครัวนี้คุกคามมาอย่างต่อเนื่อง จนต้องสั่งให้แอดมินปิดโอเพนแชท จนกระทั่งภรรยาตนชนะคดี โดยจำเลยยอมจำนนต่อหลักฐานในชั้นสืบพยาน และมีการยกมือไหว้ขอโทษและรับปากว่าจะไม่ยุ่งกับภรรยาตนอีก ถึงอย่างไร พวกตนยังถูกคนกลุ่มเดิมต่อว่า ตนจึงติดต่อไปที่วงดนตรีที่อีกฝั่งสังกัดอยู่แต่ได้รับการเมินเฉย จึงต้องเปิดศึกในสื่อ เพื่อออกมาต่อสู้เรื่องดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม บนโลกโซเชียลออนไลน์ได้มีการขุดภาพหญิงสาวคู่กรณี โดยเป็นภาพเจ้าบ่าวกำลังถือหน้ากาก ซึ่งเป็นใบหน้าของแสตมป์อยู่ โดยคู่กรณีรายดังกล่าวได้เลิกรากับอดีตสามีแล้ว อีกทั้งทางอดีตสามียังได้โพสต์ชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ อีก

จนกระทั่ง ทางฝั่งวงดนตรีที่ถูกอ้างคือ “Tilly Birds” ได้ออกมาชี้แจงผ่านทางเพจว่า บุคคลที่แสตมป์บอกว่าคุกคามภรรยานั้นคือแฟนสาวของ Sound Engineer ประจำวง นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้รับมาจากคู่กรณีทั้งสองฝ่าย คือการฟ้องร้องใน “คดีชู้สาว” ไม่ใช่ “คดีคุกคาม” และวงได้รับทราบว่าทั้งสองฝ่ายได้เจรจายอมความกันโดยมีค่าเสียหาย จึงวางใจว่าคดีความนี้จบลงไปแล้ว พร้อมย้ำไม่สนับสนุนการคุกคามใดๆ

ต่อมา ทางด้าน “Sound Engineer” แฟนหนุ่มของสาวคู่กรณีได้ออกมาชี้แจงว่า เรื่องไม่เป็นความจริง โดยก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายเป็นฝ่ายพยายามติดต่อแฟนของตนมาตลอด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังเวทีที่ถูกพาดพิงถึงขอชี้แจงว่า ตนอยู่บริเวณนั้นคนเดียว และถูกภรรยาของนักร้องดังตะโกนด่าด้วยคำหยาบ โดยตลอดเวลาที่ไม่เคยออกมาเคลื่อนไหว เพราะหากแสดงตัว จะกระทบกับทุกคนและจะโดนทั้งเอาไปพูด หรือให้ถูกต้นสังกัดยุติการจ้างงาน สำหรับในเรื่องคดีนั้นได้ยุติแล้ว และคิดมาตลอดว่าคดีจบแล้ว ก็ควรต่างคนต่างอยู่ แต่แสตมป์ยังคุกคามหลายช่องทาง ตอนนี้กำลังปรึกษาทนายและจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ต่อมา ด้าน “ทนายนิด้า” ก็ออกมายืนยันเองผ่านเฟซบุ๊กว่า “นายพล” ใช้ยศขู่นักร้อง “แสตมป์ อภิวัชร์” จริง คดีจบแต่คนไม่ยอมจบ และคนที่น่าสงสารที่สุดของเรื่องนี้คือ “น้องนิว ภรรยาแสตมป์”

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ม.ค. “ทนายนิด้า” ในฐานะทนายความของฝั่ง “แสตมป์และภรรยา” ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า ไม่สะดวกจะให้สัมภาษณ์นักข่าว หลังก่อนหน้านี้ทนายให้จนรู้เรื่องทั้งหมด พร้อมให้ “แสตมป์” เตรียมออกมาพูดด้วยตัวเอง ขอรอฟังความจริงจากปาก

จนกระทั่ง ดูเหมือนเรื่องราวดังกล่าวจะทวีความดราม่ามากขึ้น ภายหลังจากที่แฟนเพจ “โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้” ได้ออกมาอ้างว่าตนเองเป็นเพื่อนกับ “แสตมป์” อีกทั้งยังเป็นพยานขึ้นศาลในคดีดังกล่าว ได้ออกมาเผยความรู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่นักร้องคนดังออกมาพูดไม่หมด พร้อมเผยแชตจากแสตมป์ ยืนยันจากเจ้าตัวว่าคู่กรณีเป็นมือที่สามในความสัมพันธ์อีกด้วย

ต่อมา ด้าน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา” ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เจ้าของเพจ “ทนายคลายทุกข์” ได้เปิดเผยผ่านแฟนเพจระบุว่า ทางคู่กรณีของแสตมป์เตรียมแถลงข่าวที่ทนายคลายทุกข์เร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม การตอบโต้ระหว่างทั้งสองฝ่าย บนโลกโซเชียลออนไลน์ยังคงมองว่า ประเด็นครั้งนี้คือการ “โดนคุกคาม” ที่ถูกทหารของคู่กรณีสาวข่มขู่และการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว และไม่ควรโฟกัสเรื่องถูกฟ้องร้องด้วยประเด็นอื่นอีกด้วย

ขอบคุณรูปภาพ : stampapiwat