
https://www.sanook.com/news/9657210/
อนุญาโตตุลาการได้พิจารณาผลของคำชี้ขาดฉบับแรกที่เผยแพร่เมื่อปีที่แล้วซึ่งเกี่ยวข้องกับการท้าทายทางกฎหมายของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ต่อกฎการทำธุรกรรมกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง (Associated Party Transaction – APT) หรือกฎการเป็นสปอนเซอร์ ที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าของสโมสร หรือกฎสโมสรเครือข่าย ฉบับก่อนหน้านี้ของพรีเมียร์ลีกคำตัดสินของศาลได้ระบุว่า กฎ APT ฉบับเก่าซึ่งเคยถูกพบว่าผิดกฎหมายนั้นไม่สามารถแยกออกจากกฎฉบับอื่นๆ ก่อนหน้านี้ได้ตามกฎหมาย ผลที่ศาลได้พิจารณาแล้วคือ กฎ APT ฉบับเก่าทั้งหมดไม่สามารถบังคับใช้ได้
สโมสรพรีเมียร์ลีกโหวตอนุมัติการเปลี่ยนแปลงกฎ APT
แมนฯซิตี้ ฟ้องพรีเมียร์ลีก ค้านกฎสโมสรเครือข่าย ก่อนถูกพิจารณา 115 คดี
แมนฯซิตี้ ยื่นค้าน “กฎสปอนเซอร์”‘ พรีเมียร์ลีกอีกรอบ
AFP/Oli SCARFF
แมนฯ ซิตี้ ที่ไม่เห็นด้วยกับกฎสปอนเซอร์ APT มาตลอด
ทั้งนี้กฎ APT ฉบับเดิมไม่ได้มีผลใช้บังคับอีกต่อไป เนื่องจากสโมสรได้ลงคะแนนให้กฎ APT ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2024 การตัดสินนี้ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินการที่ถูกต้องของกฎใหม่แต่อย่างใด
ศาลยังไม่ได้พิจารณาถึงความถูกต้องและประสิทธิผลของกฎใหม่ ศาลระบุว่าการตัดสินของศาลจะมีประโยชน์ต่อสโมสรหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่ากฎ APT ใหม่นั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยทางพรีเมียร์ลีกนั้นยังคงเชื่อว่ากฎ APT ใหม่นั้นถูกต้องตามกฎหมายและบังคับใช้ได้ และกำลังเร่งรัดให้มีการแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว
กฎระเบียบ APT ใหม่มีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบและสโมสรต่างๆ ยังคงต้องปฏิบัติตามระบบทุกด้าน รวมถึงการยื่นเงินกู้ของผู้ถือหุ้นให้กับพรีเมียร์ลีกเพื่อการประเมินมูลค่าตลาดยุติธรรม
ทั้งนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีกได้ลงมติแก้ไขกฎ APT เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 มี 4 สโมสร นิวคาสเซิ่ล, ฟอเรสต์, แอสตัน วิลล่า และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คัดค้าน ก่อนที่การโหวตผลจะออกมาเห็นชอบที่ 16 ต่อ 4
สำหรับกฎ APT ถูกตั้งโดยพรีเมียร์ลีกเพื่อป้องกันไม่ให้สโมสรได้รับผลประโยชน์จากข้อตกลงทางการค้ากับบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับเจ้าของสโมสร ซึ่งอาจมีมูลค่าเกินกว่าราคาตลาดที่เป็นธรรม
อย่างไรก็ตามจากคำตัดสินของศาล ทำให้สโมสรใดที่เคยถูกตรวจสอบภายใต้กฎเดิม อาจมีสิทธิ์ยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายได้ ซึ่งก็อาจทำให้พรีเมียร์ลีก รวมถึงสโมสรต่างๆ ต้องรับผิดชอบในค่าเสียหายนับสิบล้านปอนด์ด้วยเช่นกัน