เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. 67 ที่ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ผู้เสียหาย 40 กว่าราย จากหลายจังหวัดทั่วประเทศ รวมตัวเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอความช่วยเหลือเนื่องจากถูกสาวแสบกับคู่หูอ้างเป็นนายหน้าจัดหางานหลอกไปทำงานภาคเกษตร ที่ประเทศแคนาดา อ้างรายได้ดีวันละ 3,800-4,500 บาท หลงเชื่ออุตส่าห์กู้หนี้ยืมสินมาจ่ายค่าดำเนินการ สูญเงินกันคนละ 150,000-170,000 บาท สุดท้ายถูกบ่ายเบี่ยงอ้างติดปัญหาต่างๆ ให้รอจนร่วมปีก็ยังไม่พาไปทำวีซ่า หลังตรวจสอบพบงานที่แคนาดาไม่มีอยู่จริง จึงรู้ว่าถูกหลอก ต้องเป็นหนี้ท่วมหัว ส่วนนายหน้าเชิดเงินหนีลอยนวล ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือพาไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจเร่งติดตามตัวการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท
นายดำรงศักดิ์ อายุ 43 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า ปัจจุบันตนทำงานโรงงาน แต่รายได้ไม่พอรายจ่ายเลี้ยงดูครอบครัว ช่วงเดือน ก.ย. 66 จึงได้มองหางานในโซเชียล ได้พบผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ “หนูนา” โพสต์เชิญชวนคนไทยไปทำงานที่ประเทศแคนาดา เป็นงานถูกกฎหมาย ผ่านวีซ่า work permit 2 ปี เป็นงานฟาร์มเก็บไส้เดือน รายได้ต่อวัน 3,800-4,500 บาท (ไม่รวมโอที) ตนเห็นว่ารายได้ดีจึงแชตติดต่อไป ซึ่งทางหนูนา ได้อ้างว่าเคยส่งคนไปทำงานที่เกาหลีเก็บเงินกลับมาตั้งตัวได้ ดูน่าเชื่อถือ และบอกว่ามีคนติดต่อมาอยากไปแคนาดาหลายคน ซึ่งสามารถพาไปได้ในจำนวนจำกัด ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 150,000 บาท ถ้าใครที่ติดต่อมาไม่รีบจองอาจจะพลาดโอกาส เพราะรับแค่ 20 คน ตนหลงเชื่อจึงรีบโอนเงินก้อนแรกไป 50,000 บาท
จากนั้นช่วงเดือน ต.ค. 66 หนูนา ก็นัดให้ตนไปหาที่ออฟฟิศในซอยรามคำแหง 166 เพื่อเซ็นเอกสารและจ่ายค่าดำเนินการอีก 100,000 บาท และนัดให้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พร้อมกับคนที่จะเดินทางไปแคนาดาด้วยประมาณ 20 คน และจ่ายค่าตรวจร่างกายคนละ 6,900 บาท ซึ่งเขาบอกว่าถ้าใครที่ตรวจร่างกายแล้วไม่ผ่านจะคืนเงินให้ทั้งหมด
หลังจากนั้นหนูนา ก็บอกให้รอ ถัดมาอีกเดือนเขาก็โทรศัพท์มาบอกว่า ตนมีประวัติเคยถูกจับเล่นการพนันจะต้องจ่ายค่าลบประวัติอีก 20,000 บาท ตนก็โอนให้ไป เวลาจ่ายเงินสดก็จ่ายให้หนูนา หรือโอนเข้าบัญชีก็เป็นชื่อของหนูนาเช่นกัน รวมที่ตนจ่ายไปทั้งหมด 170,000 บาท รอเรื่อยมาก็ไม่ได้ไปทำวีซ่าเสียที พอตนโทรฯ ถามก็อ้างติดขัดปัญหาต่างๆ นานา จนผ่านไปร่วมปี เดือน ก.ย. 67 ตนสงสัยจึงร่วมกับผู้เสียหายรายอื่นๆ ตรวจเช็กชื่อบริษัท นายจ้างที่แคนาดา ปรากฏไม่มีอยู่จริง จึงรู้ว่าถูกหลอก ตนและผู้เสียหายหลายคนเครียดจัด เพราะต้องติดหนี้สินญาติพี่น้องและนายทุนเงินกู้ที่ไปหยิบยืมมา บางคนเอาที่นา เอาบ้าน รถยนต์ไปจำนองเพื่อหาเงินมาจ่าย หวังว่าได้เดินทางไปทำงานจะมีเงินมาใช้หนี้ แต่สุดท้ายต้องมาเจอแบบนี้ แทบสิ้นเนื้อประดาตัว ขณะที่หนูนา กับนายเอ (นามสมมุติ) ที่อ้างเป็นตัวแทนบริษัทจัดหางานกลับเชิดเงินกันไป เมื่อทวงถามหนูนา ยังบอกถ้าใครมีปัญหาท้าให้ไปแจ้งความและไปฟ้องร้องได้เลย หรือถ้าจะไปร้องกระทรวงแรงงานก็ไม่กลัว เพราะมีผู้ใหญ่ที่รู้จักหนุนหลังอยู่ พวกตนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงรวมตัวกันมาร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ
หลังรับเรื่อง นางปวีณา กล่าวว่า กรณีหลอกให้ไปทำงานมีมานานแล้วและยังคงมีการหลอกมาอยู่ตลอด ผู้เสียหายหลงเชื่อต้องไปกู้เงินมาทำให้เป็นหนี้เป็นสิน สำหรับเคสนี้ผู้เสียหาย 40 กว่ารายที่ถูกหลอกต้องเดือดร้อน จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่ต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อน อย่าหลงเชื่อไม่ว่าเขาจะโฆษณาอย่างไร หากอ้างว่ารายได้ดีเกินจริงย่อมเป็นไปไม่ได้ ก่อนตัดสินใจให้ตรวจสอบกับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานให้แน่ใจก่อน จากนี้จะประสาน พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ผู้การ ปคม.) และมอบหมายให้ นายเอกภาพ หงสกุล ผู้อำนวยการมูลนิธิปวีณาฯ พาผู้เสียหายทั้งหมดเดินทางไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เพื่อเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป.