หลังจากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พร้อมด้วยภรรยา ถูกออกหมายจับ ในข้อหาฉ้อโกง, ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด ฐานฟอกเงิน และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และถูกควบคุมตัวมายังกองปราบปราม ซึ่งเป็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และอดีตคนที่เคยสัมผัสใกล้ชิดได้แห่กันออกมาให้สัมภาษณ์ความรู้สึกต่างๆ นานา นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านจำปาดง ต.กุดเรือคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ซึ่งเป็นบ้านของนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ที่อดีตเคยมอบหมายให้ทนายตั้ม เป็นคนดูแลคดีน้องชมพู่ ซึ่งต่อมาทนายตั้ม ได้ถอนตัวไปนั้น โดยทั้งคู่เปิดเผยว่า สำหรับตนนั้นได้เห็นข่าวแล้ว เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ทนายตั้ม เพิ่งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไปว่าพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ก็ขอเป็นกำลังให้กับทนายตั้ม และครอบครัว เพราะการพิสูจน์ตัวเองต้องใช้เวลา ซึ่งตนเองก็ยังสู้คดีอยู่เช่นกัน แต่เห็นตามข่าวจังหวะที่เจ้าหน้าตำรวจติดตามตัวไปจับกุม และอ้างว่าไปปฎิบัติธรรมกับภรรยาคงต้องให้ทนายตั้ม ไปพิสูจน์ตัวเอง สำหรับเรื่องที่ตำรวจพิจารณาคัดค้านการประกันตัวนั้น มองว่าคงเหมือนกับคดีความอื่นๆ ทั่วไป ก็จะติดตามข่าวไปว่าสุดท้ายจะได้ประกันตัวหรือไม่

ป้าแต๋น บอกอีกว่า ตนพร้อมครอบครัวเคยถูกสังคมจับจ้องไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม แค่สะพายกระเป๋าก็ถูกมองว่าพกเงินเตรียมหนีอะไรแบบนี้ ตนก็ทำได้เพียงติดตามข่าว แต่ก็ยังไม่ตัดสินเพราะเชื่อว่าทนายตั้ม น่าจะเตรียมตัวมาดีเพื่อสู้คดี ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ว่าใครถูกใครผิดคงต้องรอจนเสร็จสิ้นกระบวนการยุติธรรม สุดท้ายแล้วตนรู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของลูกทนายตั้ม เพราะเคยผ่านจุดที่ถูกโซเซียลคอมเมนต์ต่างๆ นานามาแล้ว เกรงจะกระทบถึงสภาพจิตใจ.