เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบิน Boeing 777-300 ER ของสายการบิน Aeroflot ขึ้นจากสนามบินภูเก็ตไปกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เกิดปัญหาขัดข้อง กัปตันขับวนเหนือทะเลอันดามัน นานกว่า 3 ชั่วโมง
โดยภาพจาก Flighradar24 แสดงเที่ยวบิน SU277 ของ Aeroflot สายการบินรัสเซีย ซึ่งมีกำหนดการเดินทางจากท่าอากาศยานภูเก็ต (HKT) ไปยังท่าอากาศยานเชเรเมียตเตวา(SVO) กรุงมอสโก
โดยกำหนดการตามตารางบินคือ ออกจากภูเก็ต 15.20 น. และ ไปถึงมอสโก 21.40 น. แต่เที่ยวบินนี้ออกเดินทางล่าช้า โดยขึ้นจากสนามบินภูเก็ตในเวลา 16.35 น. ที่ผ่านมา
หลังจากเครื่องบินขึ้นจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต มุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไต่ระดับไปที่ความสูงที่สุดประมาณ 22,000 ฟุต จากนั้นเครื่องบินกลับไม่ได้มุ่งหน้าไปยังกรุงมอสโก แต่ว่ากลับบินวนอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของภูเก็ตในทะเลอันดามัน มาเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง ที่ความสูงประมาณ 18,000 ฟุตและ 12,000 ฟุต
โดยไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุที่เครื่องบินดังกล่าว ต้องบินวนนานกว่า 3 ชั่วโมง ว่าเกิดจากสาเหตุใด ถึงไม่สามารถเดินทางต่อไปยังมอสโกในขณะนี้ได้ แต่คาดว่าอาจมีปัญหาบางประการทำให้เที่ยวบินนี้ซึ่งทำการบินด้วย Boeing 777-300ER ทะเบียน RA-73158 ต้องยังบินวนอยุ่ไม่ห่างจากภูเก็ตต้นทางในขณะนี้
อย่างไรก็ตามขณะนี้เครื่องบินได้บินไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว และการบินวนอาจจะต้องการลดปริมาณน้ำมัน ซึ่งจะต้องรอติดตามการชี้แจงของทางสายการบินต่อไป
เบื้องต้นทราบว่าเครื่องบินลำดังกล่าวมีปัญหาที่ฝาปิดล้อลงจอด โดยสามารถเก็บล้อได้ แต่ไม่สามารถปิดฝาครอบได้ จึงทำการบินวนตามกฏการบิน สุดท้ายได้ทำการขอเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแทน
ต่อมาภายหลังได้รับการรายงานเหตุดังกล่าว ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีข้อสั่งการให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เตรียมการรองรับเหตุฉุกเฉิน โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนแผนเผชิญเหตุ ควบคู่กับการปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด และให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและอากาศยาน
ด้านนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เมื่อได้รับข้อสั่งการ ทสภ.ได้ดำเนินการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง อาทิ ฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัย รวมถึงฝ่ายแพทย์เตรียมความพร้อมทุกด้านเป็นไปตามแผนเผชิญเหตุ ทั้งอุปกรณ์และกำลังพล อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 21.11 น. เที่ยวบินลำดังกล่าวสามารถลงจอดที่ ทสภ. ได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ทางวิ่ง 01 R และเข้าจอดที่หลุมจอด 115
ทั้งนี้ ขณะลงจอดและลำเลียงผู้โดยสารลงจากเครื่อง ทสภ. ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดูแล รวมถึงแจกน้ำดื่มแก่ผู้โดยสาร และได้รับแจ้งจากสายการบินในเบื้องต้นว่าจะนำลูกเรือ 15 คนและผู้โดยสาร 331 คน เข้าพักโรงแรมภายนอก และทางสายการบินจะดำเนินการจัดสรรเที่ยวบินให้ผู้โดยสารต่อไป
นาย กิตติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้สถานการณ์ในครั้งนี้ไม่ได้ประกาศใช้แผนฉุกเฉินของสนามบิน แต่ทาง ทสภ. ได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่และจากการที่สายการบิน Aeroflot เลือกมาลงจอดที่ ทสภ. นั้นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในมาตรฐานความปลอดภัย และความพร้อมในการรองรับหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น