จากกรณีเกิดเหตุและภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ รถเก๋งแอคคอร์ด พุ่งข้ามเกาะกลางถนน ชนข้ามเลนประสานงาเก๋งซีวิค ดับ 1 เจ็บ 2 ตายรายแรกของ จ.ตรัง ในช่วง 10 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 68 ขณะเกิดเหตุรถตู้ขับตามหลังมาติดๆ พุ่งชนท้ายเก๋งซีวิค แต่กลับไร้เงาคนขับ เจ้าหน้าที่เปิดท้ายรถตู้ โป๊ะแตกตรวจสอบทิ้งของกลาง เจอบุหรี่เถื่อนบิ๊กล็อต แอบบรรทุกมาจำนวนหลายลังจนแน่นเต็มคันรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้ดำเนินนำของกลางบุหรี่เถื่อนที่ตรวจพบและรถตู้ดังกล่าวมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองตรัง เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.วันนี้ 4 ม.ค.68 บนถนนสายตรัง-ปะเหลียน ฝั่งขาเข้าเมืองตรัง พื้นที่ ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันเดียวกัน ที่ อาคารพิทักษ์ราษฎร์ สภ.เมืองตรัง เจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรัง ได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบของกลางพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการตรวจสอบพบของกลางเป็น 1.บุหรี่ต่างประเทศ ยี่ห้อ Walton ทั้งหมด 35 ลัง ลังละ 50 คอตตอน ทั้งหมดจำนวน 350,000 ม้วน 2.บุหรี่ยี่ห้อ ASATU premium ทั้งหมด 49 ลัง ลังละ 60 คอตตอน ทั้งหมดจำนวน 470,400 ม้วน 3.บุหรี่ยี่ห้อ ASATU premium อยู่ในถุงพลาสติกใสชนิดหูหิ้ว จำนวน 1 ถุง ทั้งหมด 60 คอตตอน ยอดรวมทั้งหมดจำนวน 830,000 ม้วน สรุปจำนวนทั้งสิ้นแบ่งรวมเป็น 85 ลัง 170 คอตตอน 1,650,400 ม้วน เบื้องต้นประเมินหากเปรียบเทียบคิดเป็นค่าปรับจะอยู่ที่ประมาณ 19,712,500 บาท และรวมเป็นมูลค่าอยู่ที่หลายล้านบาท

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามข้อมูลยานพาหนะและเลขทะเบียนรถตู้คันดังกล่าว พบผู้ครอบครองรถปรากฏชื่อนายวิวัฒน์ (สงวนนามสกุล) ชาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ส่วนผู้ขับขี่รถตู้ ได้หลบหนีไปหลังเกิดเหตุ

ต่อมา พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง ได้ลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะทราบข้อมูลว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพอที่จะได้เบาะแสและภาพของผู้ขับขี่มาบ้างแล้ว และยังพบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดว่ารถตู้คันดังกล่าว ก่อนหน้านี้ได้ขับขี่ผ่านเส้นทางจาก จ.ตรัง ไปยัง จ.พัทลุง และจ.กระบี่

พ.ต.อ.สานิตย์ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้ประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรังเข้ามาร่วมตรวจสอบในทันที พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจร่องรอยการเฉี่ยวชนรวมทั้งวัตถุพยานเกี่ยวข้องที่อยู่ภายในรถตู้คันดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนขับขี่รวมทั้งขยายผลถึงขบวนการลักลอบค้าบุหรี่ดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า ขบวนการลักลอบค้าบุหรี่เถื่อนดังกล่าวนี้ ดำเนินการมาเป็นระยะเวลานานแล้ว มีการขับขี่ผ่านเส้นทาง จ.ตรังบ่อยครั้ง ซึ่งครั้งนี้คาดว่า รถตู้ที่บรรทุกบุหรี่หนีภาษีคันดังกล่าว ได้ขับไปรับบุหรี่จากท่าเรือแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.ตรัง โดยมีการขนส่งเข้ามาโดยทางเรือมาขึ้นที่บริเวณท่าเรือ ก่อนจะรับมาบรรทุกใส่รถตู้ เพื่อนำสินค้าไปส่งยังปลายทาง และบางส่วนคาดว่ามีการนำสินค้ามาพักไว้ด้วยเช่นกัน.