เจมี่ คาราเกอร์ กับ สตีฟ แม็คมานามาน สองตำนาน ลิเวอร์พูล ร่วมชี้ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค พัวพันใส่ หลุยส์ ดิอาซ ไม่เพียงพอเป็นการฟาวล์ และอดีตต้นสังกัด ไม่ควรได้จุดโทษเป็นประตูบุกเฉือน กิโรน่า 1-0 ในศึก แชมป์เปี้ยนส์ ลีก
“หงส์แดง” เจอเกมสูสีจนนาที 63 ดิอาซ ปะทะกับ เดอ เบค ล้มในเขตโทษ ซึ่งทีแรก เบอนัวต์ บาสเตียน เปาชาวฝรั่งเศสปล่อยเล่นต่อ แต่ดูจอข้างสนามแล้วกลับคำตัดสิน
“ผมไม่คิดว่าจังหวะนี้เป็นจุดโทษ ผมเห็นเท้าพวกเขาสัมผัสกัน แต่ในแง่การฟาวล์แล้ว มันไม่ได้ส่งผลกับ ดิอาซ อย่างแท้จริง” คาราเกอร์ แสดงทัศนะขณะเป็นกูรู
“มันไม่ใช่จุดโทษอย่างโหดร้ายด้วยซ้ำ ผมแค่ไม่เห็นว่ามันเป็นจุดโทษได้ไง คุณสามารถเห็นว่า เดอ เบค ผิดหวังคำตัดสินแค่ไหน และเขามีสิทธิ์รู้สึกแบบนั้น”
“เราพูดถึงการตัดสินในรายการนี้มา 2-3 ปีแล้ว และมีหลายจุดโทษใน แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ซึ่งจะทำให้ผมหงุดหงิดมาก หากเป็นคนโดนจับฟาวล์”
อีกหนึ่งอดีตแข้งลิเวอร์พูล อย่าง แม็คมานามาน เห็นคล้ายกัน: “มันไม่ใช่จุดโทษ ผมรู้ว่ามันเป็นจังหวะคล้ายการเหยียบส้นเท้าโดยอุบัติเหตุ แต่ไม่มีใครในสนามประท้วงอะไร
“เกมเดินต่อไปตามปกติแล้ว แต่อย่างที่พวกเขาทำในฟุตบอลยุโรป คือ VAR เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องทันทีจากนั้น เดอ เบค ก็โชคร้ายมาก”
“มันเป็นจังหวะที่ค่อนข้างชุลมุนเกินไปกว่าจะให้จุดโทษ ลิเวอร์พูล ได้ผลที่ยอดเยี่ยม แต่หากเป็นคู่แข่ง ผมคงหงุดหงิดสุดๆ”
“ด้วยความเคารพ ฟุตบอล คือกีฬาที่มีการสัมผัสตัว คุณเคยเห็นการสัมผัสตัวมากกว่านี้ในหลายจังหวะเซ็ตพีซ และมันก็ถูกปล่อยผ่าน”
โม ซาล่าห์ สังหารคว้าชัยส่ง ลิเวอร์พูล ชนะรวด 6 นัดทิ้งห่างจ่าฝูง ส่วน กิโรน่า จมอันดับ 30 โอกาสไปต่อเริ่มริบหรี่ และ มิเชล ซานเชซ เฮดโค้ชก็ถูกถามถึงจังหวะปัญหา:
“ตอนเห็น ดอนนี่ ชักเท้าออก ผมคิดทันทีว่าเราจะเสียจุดโทษ มันคือการสัมผัสเพียงเล็กน้อย หากเป็นฟุตบอลในอดีต จังหวะแบบนี้ผู้ตัดสินจะไม่เป่า” นายใหญ่ กิโรน่า กล่าวบ้าง
“แต่สำหรับยุคปัจจุบันที่มี VAR… ผมไม่เคยชอบคำตัดสินลักษณะนี้ แต่มันเกิดขึ้นจนเราเสียจุดโทษไปแล้ว เราไม่สามารถทำอะไรไปมากกว่านี้”
