พ่อแม่ทำเด็กหลอดแก้ว 3 ครั้ง กว่าจะได้ลูกชาย ใจสลายวันที่ให้ “ปู่” ไปรับที่โรงเรียนแทน เห็นวงจรปิดยิ่งสะเทือนใจ
เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา เกิดเหตุเศร้าสลดในบริเวณคอนโดแห่งหนึ่งในมณฑลอันฮุย ประเทศจีน ซึ่งสร้างความสะเทือนใจอย่างหนักให้กับผู้คนในสังคมออนไลน์และบรรดาพ่อแม่ทั่วประเทศ
วันเกิดเหตุ เด็กชายวัยประมาณ 5 ขวบคนหนึ่งเพิ่งเลิกเรียน และถูกคุณปู่มารับกลับบ้าน โดยตามปกติควรจะกลับไปเตรียมกินข้าวเย็นตามปกติ แต่วันนั้นกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม
จากภาพกล้องวงจรปิดภายในคอนโด พบว่า หลังจากรับหลานแล้ว คุณปู่ไม่ได้พาหลานกลับบ้านทันที แต่กลับเจอกลุ่มเพื่อนและหยุดพูดคุยพร้อมเล่นหมากรุกบริเวณด้านล่างของอาคาร โดยไม่ทันระวังว่าเด็กชายได้เดินไปเล่นคนเดียว ซึ่งเขามักจะเล่นบริเวณลานหน้าคอนโดเป็นประจำอยู่แล้ว
คุณปู่มัวเล่นหมากรุก ไม่ได้พาหลานกลับบ้านทันที กล้องจับภาพนาทีสลด
ในคลิปวิดีโอ เด็กชายได้นั่งเล่นใกล้ทางลาดเข้าสู่อาคารจอดรถใต้ดิน ขณะนั้น รถ SUV สีดำคันหนึ่งได้เลี้ยวลงมาจากถนนใหญ่ ด้วยความที่ตัวรถสูงและมีจุดบอดหลายจุด คนขับจึงไม่เห็นว่าเด็กนั่งอยู่ตรงนั้น และขับรถเหยียบเด็กโดยไม่ตั้งใจ
ที่น่าหดหู่คือ แม้คนขับรถดูเหมือนจะรู้ตัวว่าอาจขับเหยียบอะไรบางอย่าง เพราะรถหยุดชั่วขณะหนึ่ง แต่กลับไม่ลงมาดูและขับรถต่อเข้าไปในอาคารจอดรถ
เนื่องจากตกใจและเจ็บปวดมาก เด็กไม่สามารถส่งเสียงขอความช่วยเหลือได้ เมื่อรถจากไปแล้ว เด็กชายพยายามพยุงตัวลุกขึ้นและวิ่งขึ้นทางลาดเพื่อเรียกคุณปู่ แต่ได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ล้มลงข้างทาง แม้จะไม่มีแผลภายนอก แต่ภายในได้รับความกระทบรุนแรงจนไม่สามารถฟื้นตัวได้
เมื่อถึงตอนนั้น คุณปู่จึงรีบวิ่งเข้ามาดูหลานด้วยความตกใจ แต่ทุกอย่างก็สายไปแล้ว เด็กถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แต่ก็ไม่รอดชีวิต ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า เด็กชายเสียชีวิตในวันถัดมาด้วยอาการอวัยวะภายในฉีกขาดและเสียเลือดภายในอย่างรุนแรง
เด็กชายคนนี้คือผลลัพธ์จากความพยายามทำเด็กหลอดแก้วถึง 3 ครั้ง
หนึ่งในรายละเอียดที่สร้างความสะเทือนใจยิ่งขึ้นคือ เด็กชายคนนี้คือผลจากความพยายามทำเด็กหลอดแก้วถึง 3 ครั้ง เป็นลูกที่ครอบครัวรอคอยมาอย่างยาวนานและยากลำบาก
ตามปกติแล้วแม่ของเด็กจะเป็นคนมารับหลังเลิกเรียน แต่วันนั้นเพราะมีเหตุจำเป็น คุณปู่ซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโด จึงเป็นผู้มารับแทน แต่เพียงความประมาทเลินเล่อเพียงครู่เดียว กลับทำให้ครอบครัวสูญเสียลูกชายเพียงคนเดียว แม่ต้องสูญเสียความหวังทั้งชีวิต ส่วนคุณปู่ต้องแบกรับความรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
เหตุการณ์นี้เมื่อถูกเผยแพร่ออกไป สร้างความสะเทือนใจและโกรธแค้นในโลกออนไลน์ หลายคนแสดงความคิดเห็นอย่างเจ็บปวด เช่น
“ฉันไม่อยากจินตนาการเลยว่าคุณแม่จะเจ็บปวดแค่ไหน… แล้วเธอจะสามารถมองหน้าคุณปู่ได้อีกหรือเปล่า”
“เด็กคนนี้คือผลลัพธ์จากความหวังและความพยายามมากมาย แต่กลับจากไปเพียงเพราะการขาดสติในเสี้ยววินาที มันเจ็บปวดเกินจะรับได้!”
ใครควรเป็นผู้รับผิดชอบ? คนขับรถ? ครอบครัว? หรือฝ่ายจัดการคอนโด?
เกิดข้อถกเถียงในหมู่ชาวเน็ตว่าใครควรรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางคนโทษคุณปู่ในฐานะผู้ดูแลที่ประมาท บางคนต่อว่าคนขับที่ไม่ลงมาตรวจสอบ บางความเห็นกล่าวว่า “ตอนเลี้ยวรถลงอุโมงค์ คนขับน่าจะเห็นเด็กแล้ว แต่อาจมัวเล่นมือถือจึงไม่ได้สังเกต”
ขณะเดียวกัน คนขับรถบางคนให้มุมมองที่แตกต่างว่า “จุดทางลาดลงอาคารจอดรถเป็นหนึ่งในจุดที่มีจุดบอดมากที่สุด เด็กตัวเล็กมาก มองไม่เห็นเลยจริง ๆ แถมแรงกระแทกจากรถเบาเหมือนขับผ่านลูกระนาด จึงไม่รู้ว่าขับทับคน”
บางคนยังตั้งคำถามถึงมาตรการความปลอดภัยของคอนโด “ทำไมปล่อยให้เด็กมาเล่นใกล้ทางลาดอันตรายแบบนี้? แล้วฝ่ายจัดการหรือผู้ใหญ่คนอื่น ๆ อยู่ที่ไหน?” ความตระหนักด้านความปลอดภัยที่ขาดหาย อาจกำลังผลักดันให้เด็ก ๆ ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายที่ไร้ทางหนีเช่นนี้
