
ฟุตบอลหญิงไทยเจอฝน ต้องปรับโปรแกรมเข้าฟิตเนส “ศิลาวรรณ” รับเห็นสัญญาณดีจากแข้งรุ่นใหม่ ขณะที่แฟนบอลได้ชมถ่ายทอดสดแมตช์อุ่น เม็กซิโก 29 ต.ค.นี้ วันที่ 18 […]
ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้จะทำให้ PUMA กลายเป็นซัพพลายเออร์ลูกบอลอย่างเป็นทางการของพรีเมียร์ลีก ซึ่งรวมถึงการจัดหาลูกบอลสำหรับการแข่งขันในทุกนัดของลีกตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2025/26
ทำให้ลีกสูงสุดของอังกฤษยุติความร่วมมือ 25 ปี กับ ไนกี้ ในปีนี้ ในฐานะผู้จัดหาลูกบอลอย่างเป็นทางการของพรีเมียร์ลีก โดยลูกบอล Tiempo รุ่นล่าสุดกลายมาเป็นลูกบอลที่ได้รับความนิยมทันที
AFP/AFP
พรีเมียร์ลีก ยืนยันเตรียมใช้ลูกฟุตบอลใหม่ภายใต้แบรนด์ PUMA เริ่มฤดูกาล 2025-26
ถือเป็นชัยชนะทางกลยุทธ์ครั้งสำคัญของ PUMA ขณะที่แบรนด์กำลังขยายฐานในอุตสาหกรรมฟุตบอลระดับสูงอย่างแข็งขัน
ริชาร์ด มาสเตอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ PUMA ในฐานะซัพพลายเออร์ลูกบอลอย่างเป็นทางการของพรีเมียร์ลีก PUMA มีความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์การมีส่วนร่วมในวงการฟุตบอลมายาวนานหลายปี และเรารอคอยที่จะเห็นลูกบอลใหม่นี้ใช้ในการแข่งขันทั้งหมดของเราตั้งแต่ซัมเมอร์นี้เป็นต้นไป”
“การเข้าถึงระดับโลกและความมุ่งมั่นในความเป็นเลิศของพวกเขาสอดคล้องกับค่านิยมของเรา และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำงานร่วมกันในโครงการต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนงานอันน่าทึ่งที่เกิดขึ้นในชุมชน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับแฟนๆ ทั่วโลก”
อาร์เน่ ฟรอยด์ท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ PUMA กล่าวว่า “ข้อตกลงกับพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นลีกฟุตบอลที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก ถือเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์ยกระดับแบรนด์ของ PUMA”
“เรามุ่งหวังที่จะนำเทคโนโลยีประสิทธิภาพของเราไปสู่จุดสูงสุดของเกมและเชื่อมต่อกับแฟนๆ ทั่วโลก โดยที่ลูกบอลของ PUMA เป็นจุดสนใจในทุกแมตช์ของลีกที่น่าทึ่งนี้ เราจะสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำสำหรับทั้งผู้เล่นและแฟนๆ”
PUMA มีบทบาทสำคัญในพรีเมียร์ลีกในฐานะผู้จัดหาชุดแข่งให้กับแมนเชสเตอร์ซิตี้ รวมถึงผู้จัดหารองเท้าให้กับนักเตะอย่าง ไค ฮาแวร์ตซ์ (อาร์เซน่อล) และ เจมส์ แมดดิสัน (ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์) แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) และ จอร์แดน พิคฟอร์ด (เอฟเวอร์ตัน)
ภายใต้ความร่วมมือนี้ PUMA จะสนับสนุนโครงการริเริ่มต่างๆ มากมาย ตั้งแต่โครงการฟุตบอลในชุมชนที่ส่งเสริมพรสวรรค์ระดับรากหญ้า ซึ่ง พรีเมียร์ลีกซึ่งถ่ายทอดสดให้ผู้ชม 900 ล้านครัวเรือนใน 189 ประเทศ ความร่วมมือนี้จึงพร้อมที่จะขับเคลื่อนทั้งการรับรู้และการมีส่วนร่วมของแบรนด์ โดยมอบประสบการณ์ระดับพรีเมียมให้กับแฟนๆ นักกีฬาและชุมชน