ค่าตามค่าสัมประสิทธิ์ ยูฟ่า ของแต่ละลีก อิงจากผลงานของสโมสรใน 3 รายการแข่งขันของยูฟ่า ได้แก่ แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูโรป้า ลีก และคอนเฟอเรนซ์ลีก ซึ่งจะได้มาจากผลการแข่งขัน 2 คะแนน กับการเก็บชัยชนะ และ 1 คะแนนหากได้ผลเสมอจากนั้นคะแนนที่สโมสรจากลีกเดียวกันทำได้จะถูกนำมารวมกัน แล้วหารด้วยจำนวนทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันจากลีกนั้น ๆ
ตัวอย่างเช่น หากพรีเมียร์ลีกมีคะแนนรวม 100 คะแนน คะแนนนั้นจะหารด้วยทีมที่เล่นในถ้วยยุโรปทั้งหมด 7 ทีม ทำให้คะแนนเฉลี่ยของอังกฤษจะเท่ากับ 14.28
พรีเมียร์ลีก อาจมี 6 ทีมลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หากทำได้ตามเงื่อนไข
ทีมพรีเมียร์ลีก จ่อได้ โควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 5 ทีม
AFP/Paul ELLIS
ลิเวอร์พูล ทีมที่การันตีเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าแน่นอนแล้ว
ฤดูกาลนี้สโมสรที่เล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกจะได้รับแต้มโบนัส ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับลีกที่มีสโมสรเข้าร่วมแข่งขันมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น เซเรีย อา อิตาลี และ บุนเดสลีกา เยอรมนี
โดยทีมจากลีกที่จบอันดับอยู่ในสองอันดับแรกของตารางค่าสัมประสิทธิ์จะได้สิทธิ์ทีมเพิ่มไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า ซึ่งในฤดูกาล 2024-25 ทีมจากอิตาลี ได้ค่าประสิทธิมากที่สุด ส่งผลให้ได้รับโควตาเพิ่ม คือ โบโลญญ่า (อันดับ 5 เซเรีย อา) และ ดอร์ทมุนด์ (อันดับ 5 บุนเดสลีกา)
ในศึกพรีเมียร์ลีก ทีมที่จบ 4 อันดับแรก จะได้เข้าร่วมแชมเปี้ยนส์ลีกโดยอัตโนมัติ หากมีโควตาเพิ่มเติม ทีมอันดับที่ 5 จะได้สิทธิ์เล่นในถ้วยใหญ่ของยุโรป
อย่างไรก็ตามในกรณีที่ สเปอร์ส หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ยูโรปาลีกฤดูกาล 2024-25 อังกฤษก็อาจมีตัวแทนเข้าร่วมแชมเปี้ยนส์ลีกถึง 6 ทีมในฤดูกาล 2025-26 ซึ่งต่างจากกฎก่อนหน้านี้ที่ยกเลิกไปแล้วกับการที่ให้จำนวนทีมสูงสุดจากลีกเดียวกัน 5 ทีม ทั้งนี้ แชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีกและ ยูโรป้าลีกจะได้สิทธิ์เล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลถัดไปหากไม่ผ่านเข้ารอบผ่านตำแหน่งสุดท้ายในลีกในประเทศของตน
ค่าสัมประสิทธิล่าสุด อัปเดท 20 ก.พ. 2025
1. อังกฤษ 106.6 (เหลือสโมสรแข่งขันในรายการยุโรป 6 จาก 7 ทีม)
2. อิตาลี 93.2 (เหลือสโมสรแข่งขันในรายการยุโรป 4 จาก 8 ทีม)
3. สเปน 89.1 (เหลือสโมสรแข่งขันในรายการยุโรป 6 จาก 7 ทีม)
4. เยอรมนี 84.0 (เหลือสโมสรแข่งขันในรายการยุโรป 6 จาก 8 ทีม)
5. ฝรั่งเศส 70.0 (เหลือสโมสรแข่งขันในรายการยุโรป 3 จาก 7 ทีม)
