จากกรณีที่รัฐบาลไทยมีมาตรการตัดไฟฟ้า น้ำ ระบบสื่อสาร รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ให้ส่งออกไปประเทศเมียนมาในวันที่ 5 ก.พ.นี้ เพื่อตัดช่องทางของกลุ่มคนจีนที่ทำผิดกฎหมาย หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ระบาดหนักอยู่ชิดแนวตระเข็บชายแดนของประเทศไทย โดยมีทั้งสิ้น 5 จุด ที่จะถูกตัดไฟได้แก่ 1.จุดซื้อขายบริเวณบ้านเจดีย์สามองค์ – เมืองพญาตองชู รัฐมอญ โดยบริษัท Mya Pan Investment and Manufacturing Company Limited เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 2.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านเหมืองแดง – เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน โดยบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป(พีแอนด์อี) จำกัด เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
3.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย – พม่า – เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน โดยบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) จำกัด เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 4.ซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย – พม่า แห่งที่ 2 – อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยบริษัท Nyi Naung Oo Company Limited และ บริษัท Enova Grid Enterprise (Myanmar) Company Limited เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 5.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านห้วยม่วง – อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง โดยบริษัท Shwe Myint Thaung Yinn Industry and Manufacturing Company Limited (SMTY) เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากประเทศทเมียนมา

ผู้สื่อข่าวรายงานจากด่านเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เขตพื้นที่ชายแดนติดต่อกับอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา ได้มีกลุ่มนายทุนคนจีนที่ทำผิดกฎหมาย หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงประชาชนตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว ย้ายฐานจากเมืองเมียวดี ทางตอนเหนือของประเทศเมียนมา มาตั้งฐานอำเภอพญาตองซู ตอนใต้ของประเทศเมียนมาได้ก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ 8 แห่ง คาสิโนขนาดเล็ก 15 แห่ง รวมทั้งสถานบันเทิงขนาดใหญ่อีก 5 แห่ง มีกลุ่มคนจีนทำผิดกฎหมายที่อยู่ในพื้นที่และทำงานไม่ต่ำกว่า 7,000 คน
ส่วนบรรยากาศในพื้นที่อำเภอพญาตองซู หลังจากที่ชาวบ้านประเทศเมียนมาได้ทราบข่าวว่ารัฐบาลไทยจะตัดไฟฟ้า น้ำ ระบบสื่อสาร รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้คนในพื้นที่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบในการตัดไฟฟ้าครั้งนี้ โดยได้ออกมาหาซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องปั่นไฟ ไฟโซล่าเซลล์ ซึ่งเกรงว่าจะตัดจริงกลัวกันจ้าละหวั่นเพื่อเตรียมความพร้อม
ส่วนในวันที่ 5 ก.พ.นี้ หน่วยงานความมั่นคงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมกันเพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป.