
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มีสัญญากับลิเวอร์พูลจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน แต่ เรอัล มาดริด ต้องการเซ็นสัญญาก่อน เพื่อให้ทันลุยศึกชิงแชมป์สโมสรโลก […]
เกมเอฟเอคัพ ศึกบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดของอังกฤษ รอบรองชนะเลิศ ที่เวมบลีย์ ฟอเรสต์ พบ แมนฯ ซิตี้ รองแชมป์ปีที่แล้ว
แอนโธนี่ อีแลงก้า ไม่ได้สตาร์ตให้ฟอเรสต์ เป็น คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย ที่มีชื่อในเกมรุก
เกมนี้แมนฯ ซิตี้ ส่ง แจ็ค กรีลิช สตาร์ต เช่นเดียวกับ ริโก้ ลูอิส และ ซาวินโญ่ ได้สตาร์ตเช่นกัน ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ นั่งสำรอง เจมส์ แม็คเอตี้ ติดแบน
บาร์เซโลน่า ชนะ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ “กุนเด้” ซัดชัย
แมนฯซิตี้ ได้เงินหนุนจากยูฟ่ามากสุดหลังปล่อยแข้งไปเล่นทีมชาติ
AFP/Adrian Dennis
ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ในจังหวะขึ้นโหม่งทำประตูที่ 2
เกมครึ่งแรกมีเพียงประตูเดียวโดยเป็นของ “เรือใบสีฟ้า” นำ 1-0 จากจังหวะที่ มาเตโอ โควาซิช จ่ายเลียดเข้าไปในกรอบโทษให้ ริโก้ ลูอิส หมุนตัวยิงผ่านมือ มัตซ์ เซลส์ เข้าไปตั้งแต่นาทีที่ 2
กลับมาครึ่งหลังนาที 51 โอมาร์ มาร์มูช เปิดเตะมุมไปให้ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ที่ขึ้นสูงกว่าใครโหม่งให้ แมนฯ ซิตี้ ขยับหนีเป็น 2-0
นาทีที่ 80 ไตโว อโวนิยี่ ตัวสำรองยังไม่สามารถทำประตูตีไข่แตกให้ฟอเรสต์ได้ หลังยิงไปชนคาน และถือเป็นการชนคานครั้งที่ 3 ในครึ่งเวลาหลัง แม้ มอร์แกน กิ๊บบ์ส- ไวท์ จะพยายามตามโหม่ง แต่ สเตฟาน ออร์เตก้า ยังปัดทิ้งออกไปได้
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมแมนฯ ซิตี้ ชนะ ฟอเรสต์ 2-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ เป็นหนที่ 4 ในรอบ 7 ปีหลัง โดยจะพบกับ คริสตัล พาเลซ ในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้
ผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ฟอเรสต์ (4-2-3-1) : มัตซ์ เซลส์ – แซ็ค แอ็บบ็อตต์, นิโกล่า มิเลนโควิช, มูรีลโล่, แฮร์รี่ ทอฟโฟโล่ – นิโกลัส โดมิงเกซ, ดานิโล่ – คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, เอลเลียต แอนเดอร์สัน- คริส วู้ด
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า – มาเตอุส นูเนส, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, นิโก้ โอเรลลี่ – มาเตโอ โควาซิช, นิโก้ ลูอิส – ซาวินโญ่, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, แจ็ค กรีลิช – โอมาร์ มาร์มูช