สุริยคติกาล วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ค.ศ. 2024 จันทรคติกาล ตรงกับวันจันทร์ […]
โธมัส แฟร้งค์ ส่ง มาร์ค เฟล็คเค่น ผ่านฟิตลงเฝ้าเสาให้ เบรนท์ฟอร์ด หลังเกมล่าสุดที่บุกเสมอ ไบรท์ตัน 0-0 ได้รับบาดเจ็บ ส่วน เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก ลงแทน เบน มี ที่เจ็บในเกมเดียวกัน ด้าน เยฮอร์ ยาร์โมลยุค ได้แทน เควิน ชาเด้อ ในเกมรุก
มิเกล อาร์เตต้า เปลี่ยน 4 จุดจากเกมที่อาร์เซน่อล ชนะ อิปสวิช 1-0 ริคคาร์โด้ คาลาฟิโอรี่ ได้ลงยืนแบ็คซ้าย อีธาน เอ็นวาเนรี่ ดาวรุ่งวัย 17 ปี ได้สตาร์ตพรีเมียร์ลีกเป็นเกมแรก แดนกลาง เดแคลน ไรซ์ หลุดไปนั่งสำรอง ไค ฮาแวร์ตซ์ ไม่มีชื่อในทีมเกมนี้ กาเบรี่ยล เชซุส ยืนหน้าเป้า
อิชิอิ-พีรดนย์ หวังไทย ทำผลงานได้ดีเยือนเวียดนาม นัดแรก ชิงอาเซียน คัพ
สื่อคาด ซาล่าห์ -ฟาน ไดจ์ค ตกลงสัญญาใหม่ 2 ปีกับลิเวอร์พูล
AFP/JUSTIN TALLIS
โยอัน วิสซ่า พาบอลหนี โธมัส ปาร์เตย์ และ วิลเลี่ยม ซาลิบา และ
นาทีที่ 13 จากจังหวะบุกลุ้นครั้งแรก เบรนท์ฟอร์ด โดย มิคเคล ดัมส์การ์ด ตัดบอลกลางสนามจากที่ มาร์ติน โอเดอการ์ด จ่ายพลาด ก่อนให้บอลไปที่ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ยิงด้วยซ้ายหักข้อที่เสาแรก ชนิดที่ ดาบิด ราย่า พุ่งไปเซฟไม่ทัน และถือเป็นประตูที่ 11 ในลีกของ เอ็มเบอโม่ ฤดูกาลนี้
นาทีที่ 28 เบรนท์ฟอร์ด เกือบได้ประตูที่ 2 เป็นจังหวะที่ ลูอิส-พ็อตเตอร์ ยิง ดาบิด ราย่า เซฟจังหวะแรก บอลยังแรงเกือบข้ามเส้น ดีที่มือกาวชาวสแปนิช มาแก้ไขความผิดพลาดของตัวเอง ด้วยการตามมาปัดปลายมือซ้ายอีกครั้งเอาไว้ได้
จากนั้นนาทีที่ 29 กาเบรี่ยล เชซุส ตามโหม่งซ้ำจ่อๆ จากจังหวะ มาร์ค เฟล็คเค่น ปัดลูกยิงของ โธมัส ปาร์เตย์ ไม่ขาดเข้าไป อาร์เซน่อล กลับสู่เกมตีเสมอ 1-1
หลังได้ประตูตีเสมอ อาร์เซน่อล เร่งเกมแต่ก็ยังไม่สามารถเจาะประตูเพิ่มใส่ เบรนท์ฟอร์ด ที่ตั้งรับต่ำได้ จบครึ่งแรกยังเสมอ 1-1
กลับมาครึ่งหลังนาทีที่ 50 จากจังหวะเตะมุม บอลมาชุลมุนหน้าประตู และบอลไปโดนหน้าอก เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก มาเข้าทาง มิเกล เมริโน่ ซัดด้วยซ้ายเข้าไป อาร์เซน่อล แซงนำ 2-1
นาทีที่ 53 อาร์เซน่อล หนีเป็น 3-1 กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เก็บตกจากลูกที่ เนธาน คอลลินส์ โหม่งลูกเปิดของ อีธาน เอ็นวาเนรี่ ไม่ขาด ก่อนซัดด้วยขวาเข้าไป
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง ในครึ่งหลัง เบรนท์ฟอร์ด เรียกได้ว่าไม่มีจังหวะจบสกอร์ให้ได้เห็นเลย
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เกมบุกของ เบรนท์ฟอร์ด เหมือนจะช็อตไป และไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้
จบเกม อาร์เซน่อล บุกมาชนะ ทำให้แซง ฟอเรสต์ ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 โดยแข่ง 19 นัดมีเพิ่มเป็น 39 คะแนนตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูง 6 แต้ม แต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ส่วน เบรนท์ฟอร์ด แข่ง 19 นัด อยู่อันดับ 12 เท่าเดิมมี 24 คะแนน
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
เบรนท์ฟอร์ด (3-4-1-2) : มาร์ค เฟล็คเค่น – เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก, เนธาน คอลลินส์, วิตาลี่ ยาเนลต์ – มัดส์ เรอร์สเลฟ, เยฮอร์ ยาร์โมลยุค, คริสเตียน นอร์การ์ด, คีน ลูอิส-พ็อตเตอร์ – มิคเคล ดัมส์การ์ด – ไบรอัน เอ็มเบอโม่,โยอัน วิสซ่า
อาร์เซน่อล (4-3-3) : ดาบิด ราย่า – เจอร์เรียน ทิมเบอร์, วิลเลี่ยม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, ริคคาร์โด้ คาลาฟิโอรี่ – มาร์ติน โอเดอการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, มิเกล เมริโน่ – อีธาน เอ็นวาเนรี่, กาเบรี่ยล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่