ทางการ! เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขยายสัญญาคุม แมนซิตี้ ถึงปี 2027
อาร์เน่อ สล็อต ยังคงพาลิเวอร์พูลแรงไม่หยุด ไม่แพ้ 23 นัดในทุกรายการ โดยเกมนี้ได้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ แทน โจ โกเมซ และเป็นตำแหน่งเดียวที่ปรับเปลี่ยนจากเกมลีกล่าสุดบุกไปชนะ เวสต์แฮม 5-0 ด้าน โดมินิก โซบอสซ์ไล แม้พ้นแบนแต่ป่วยไม่มีชื่อในวันนี้
รูเบน อโมริม เกมลีกล่าสุด พา แมนฯ ยูไนเต็ดแพ้รวดใน 4 เกมหลังทุกรายการ เกมนี้ปรับ 3 ตำแหน่งหลังได้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีม และ มานูเอล อูการ์เต้ พ้นแบนออกสตาร์ต เช่นเดียวกับ ค็อบบี้ เมนู ที่เป็นสำรองในเกมแพ้ นิวคาสเซิล 0-2 กลับมาเป็นตัวจริง
เวียดนาม บุกชนะ ทีมไทย 3-2 สกอร์รวม 5-3 คว้าแชมป์อาเซียนคัพ 2024
ผลบอลพรีเมียร์ลีก ! อาร์เซน่อล บุกเจ๊า ไบรท์ตัน
AFP/Darren Staples
โคดี้ กัคโป มีโอกาสลุ้นยิงให้ลิเวอร์พูล
นาทีที่ 13 ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลมากกว่า มีโอกาสลุ้นประตูก่อนจากจังหวะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ยิงติดมาร์ติเนซ ก่อน เทรนต์ มาเก็บบอลต่อให้ หลุยส์ ดิอาซ เร่งยิงข้ามคานออกไปเยอะ
นาทีถัดมา เจ้าบ้านเกือบได้ประตูอีกครั้ง ไรอัน กราเฟนแบร์ก จ่ายไปให้ โคดี้ กัคโป ยิงผ่านเสาสองออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 16 อ็องเดร โอนาน่า โชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันลูกยิงตามน้ำของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
นาทีที่ 20 ดีโอโก้ ดาโล่ต์ เปิดจากทางซ้ายมาให้ อาหมัด ดิยัลโล่ ได้ทะยานโหม่งคนเดียวแต่ทว่าโหม่งผิดเหลี่ยมบอลไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 29 ไรอัน กราเฟนแบร์ก พลิกบอลหนีผู้เล่นแมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนกดด้วยขวา ระยะเกือบ 20 หลา บอลหลุดเสาออกไปแบบ อ็องเดร โอนาน่า ต้องพุ่งเช็กระยะ
นาทีที่ 42 ราสมุส ฮอยลุนด์ ได้หลุดกัปดักล้ำหน้า ไปดวลกับ อลีสซง เบ็คเกอร์ แต่ศูนย์หน้าทีมชาติเดนมาร์ก ยิงไปติด อลีสซง ที่เซฟเอาไว้ได้ แม้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะพยายามซ้ำแต่ติดบล็อก
จบครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาครึ่งหลัง นาทีที่ 49 ดีโอโก้ ดาโล่ต์ ได้หลุดเข้าไปลุ้นยิงมุมแคบแต่จังหวะสุดท้าย เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค มาช่วยบล็อกเอาไว้ได้
นาทีที่ 59 ลิเวอร์พูล มาตีเสมอ 1-1 สำเร็จจากความยอดเยี่ยมของ โคดี้ กัคโป ที่ล็อกด้วยซ้ายหลบ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ ก่อนยิงด้วยขวาเข้าไป และเป็นประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีกของดาวเตะทีมชาติเนอร์แลนด์
หลังเกมกลับมาเสมอทั้ง 2 ทีมเปิดหน้าแลก จนนาที 67 VAR มาเตือนให้ผู้ตัดสินไปดูในจังหวะที่ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ ทำแฮนด์บอลในกรอบ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะกลับมาชี้ให้เป็นจุดโทษ และเป็น โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ที่ยิงเข้าไปในนาที 70 และเป็นประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีกของศูนย์หน้าทีมชาติอิยิปตน์ ลิเวอร์พูล แซงนำ 2-1
นาทีที่ 80 อเลฮานโดร การ์นาโช่ ตัวสำรอง มาเปิดจากด้านข้างให้ อาหมัด ดิยัลโล่ ยิงด้วยซ้ายให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตีเสมอ 2-2
นาทีที่ 89 บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยิงยัดเสาแรก อลีสซง รับซองแตกเสียเตะมุม จากนั้นนาทีเดียวกัน ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูเหมือนกันจากจังหวะสวนกลับ อ็องเดร โอนาน่า มาเซฟลูกยิงของ ดีโอโก้ โชต้า และ คอนอร์ แบร็ดลี่ย์ 2 ตัวสำรองของเจ้าถิ่นเอาไว้ได้ รวมถึง เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ก็โหม่งไปตรง โอนาน่า อีกครั้ง
ช่วงทดเจ็บ 7 นาที แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ยิงข้ามคานไปอย่างเหลือเชื่อ จบเกมเสมอ 2-2 แบ่งแต้มกันไป ผ่าน 19 นัด ลิเวอร์พูล ยังคงนำเป็นจ่าฝูงด้วยการมีเพิ่ม 46 คะแนน นำหน้า อาร์เซน่อล ุ แต้ม และแข่งน้อยกว่า 1 นัด ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ชนะเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันทุกรายการ ทำให้เตะ 20 นัดในลีก มีเพิ่มเป็น 23 แต้ม อยู่อันดับ 13
ผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, เคอร์ติส โจนส์, โคดี้ กัคโป – หลุยซ์ ดิอาซ
แมนฯ ยูไนเต็ด (3-4-2-1) : อ็องเดร โอนาน่า -มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ , แฮรี่ แม็กไกวร์ , ลิซานโดร มาร์ติเนซ – นุสซาร์ มาซราอุย, ค็อบบี้ เมนู, มานูเอล อูการ์เต้, ดีโอโก้ ดาโล่ต์ – อาหมัด ดิยัลโล่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส – ราสมุส ฮอยลุนด์