
BLOG TOPIC_A ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: [email protected] โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท) อาร์เน่อ สล็อท […]
ลิเวอร์พูล ปรับทีมจากเกมชนะ ลีลล์ ใน UCL เมื่อกลางสัปดาห์ 5 ตำแหน่ง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โคดี้ กัคโป กลับมาสตาร์ต เคอร์ติส โจนส์ เจ็บจากเกมยุโรปล่าสุด
คีแรน แม็คเคนน่า พาอิปสวิชแพ้คาบ้าน ให้แมนฯ ซิตี้ 6-0 โดยมีการปรับจากเกมดังกล่าว 5 จุด คาลวิน ฟิลลิปส์ กลับมามีชื่อหลังเกมสัปดาห์ก่อนติดเงื่อนไขห้ามลงเจอต้นสังกัดแม่ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ หายเจ็บคืนแนวรับ เจเดน ฟิโลจีน ที่เซ็นมาจาก แอสตัน วิลล่า ได้ลงเป็นตัวจริงครั้งแรก
“สปัลเล็ตติ” หนุน “เคียซ่า” ย้ายกลับมาอิตาลี เพื่อลงเล่นต่อเนื่อง
“เทรนต์” ปัดสัญญาใหม่ “ลิเวอร์พูล” หลายครั้ง
AFP/Paul ELLIS
โคดี้ กัคโป กลายเป็นนักเตะดัตช์คนที่ 3 ต่อจาก รุด ฟาน นิสเตลรอย และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ยิงประตูในบ้านได้ 5 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก
เริ่มเกมเจ้าบ้านบุกใส่ต่อเนื่อง นาทีที่ 11 โดมินิค โซบอลซ์ไล ยิงประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ หลังรับบอลมาจาก อิบราฮิมา โกนาเต้ ก่อนล็อกด้วยขวาและยิงด้วยซ้าย ระยะ 18 หลาบอลเสียบเสาเข้าไปให้ ลิเวอร์พูล นำ 1-0
หลังจากขึ้นนำ เจ้าบ้านยังกดดัยใส่ต่อเนื่อง นาทีที่ 35 ลิเวอร์พูล มาขยับหนีเป็น 2-0 โคดี้ กัคโป เปิดจากทางซ้ายไปที่เสาสองให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ เอาบอลลงด้วยขวาก่อนยิงจ่อๆเข้าไปและเป็นประตูที่ 19 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ของดาวเตะทีมชาติอียิปต์
นาทีที่ 44 โคดี้ กัคโป มาตามซ้ำลูกที่ คริสเตียน วอลตัน ปัดลูกยิงของ โดมินิค โซบอลซ์ไล เข้าไปให้ ลิเวอร์พูล นำห่าง 3-0 และถือเป็นประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ของ กัคโป และเป็นนักเตะดัตช์คนที่ 3 ต่อจาก รุด ฟาน นิสเตลรอย และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ยิงประตูในบ้านได้ 5 นัดติดต่อกัน
ช่วงทดเจ็บนาที 45+7 โดมินิกโซ บอลซ์ไล มีลุ้นเพิ่มประตูที่ 4 แต่ยิงหลุดกรอบ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ 3-0
กลับมาครึ่งหลังยังคงเป็นเกมของลิเวอร์พูล แต่ผ่านหนึ่งชั่วโมง แนวรับอิปสวิช เล่นได้รัดกุมขึ้นไม่พลาดเสียประตูที่ 4 ให้กับทีมจ่าฝูง และก็มีโอกาสยิงครั้งแรกของเกมจาก โอมารี่ ฮัทชินสัน แต่ไปตรงตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ รับกินสบาย
นาทีที่ 66 โคดี้ กัคโป มาทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก หลังโฉบมาโหม่งลูกเปิดจากทางขวาของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เข้าไปและเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้ ให้ ลิเวอร์พูล นำห่าง 4-0 โดยลูกนี้ VAR เช็กแข้งทีมชาติเนเธอร์แลนด์ไม่ได้ล้ำหน้าแต่อย่างใด
นาทีที่ 74 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เก็บตกจากที่แนวรับอิปสวิช เคลียร์เตะมุมมา และยิงด้วยขวาบอลมุดได้ลุ้นเกือบเสียบเสาเช่นกัน
นาทีที่ 77 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้ยิงอีกครั้งแต่ก็ยังไม่เป็นประตูบอลไปชนเสากระดอนออกมา
นาทีที่ 85 อิปสวิช ยังไม่ได้ประตูตีไข่แตก เมื่อ จอช เฮิร์สท์ ตัวสำรองได้ตั้งคอโหม่งจ่อๆ แต่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟเอาไว้ได้
นาที 90 อิปสวิช ก็มาได้ประตูตีไข่แตกปลอบใจ จากจังหวะเตะมุมเข้ามาและเป็น เจค็อบ กรีฟส์ พุ่งโหม่งเข้าไป จบเกม ลิเวอร์พูล ถล่ม อิปสวิช 4-1 ทำชนะทั้งไป-กลับฤดูกาลนี้ ผ่าน 22 นัด “หงส์แดง” มีเพิ่มเป็น 53 แต้ม นำหน้า อาร์เซน่อล อันดับ 2 ที่แข่งมากกว่า 1 นัดอยู่ 6 แต้ม ส่วน อิปสวิช ที่ 2 เกมหลังเสียไป 10 ประตู แข้ง 23 นัด มี 16 แต้มอยู่อันดับ 18 เหมือนเดิม
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ , อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ , ไรอัน กราเฟนแบร์ก – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โดมินิค โซบอลซ์ไล, หลุยส์ ดิอาซ -โคดี้ กัคโป
อิปสวิช (3-4-2-1) :คริสเตียน วอลตัน – อั๊กเซล ตวนเซเบ้, ดารา โอเช, เจค็อบ กรีฟส์- เวส เบิร์นส์, แซม มอร์ซี่, คาลวิน ฟิลลิปส์, เลฟ เดวิส -โอมารี่ ฮัทชินสัน, เจเดน ฟิโลจีน – เลียม ดีแล็ป