เกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ นัดที่ 11 ปารากวัย อันดับ 6 เปิดเอสตาดิโอ อูเอโน่ เดเฟนโซเรส เดล ชาโก้ รับการมาเยือน อาร์เจนตินา แชมป์โลกและจ่าฝูง โดยนัดแรกที่เจอกัน อาร์เจนติน่า ชนะ 1-0
กุสตาโว่ อัลฟาโร่ กุนซือปารากวัย เกมนี้ส่ง มิเกล อัลมิร่อน, อันโตนิโอ ซานาเบรีย และ ฮูลิโอ เอ็นซิโซ่ เป็นสามประสานเกมรุก
ด้าน ลิโอเนล สกาโลนี่ เฮดโค้ชอาร์เจนตินา ส่งผู้เล่นจัดเต็ม นำโดย ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีม ที่ยืนอยู่หลังคู่หน้าอย่าง – เลาตาโร่ มาร์ติเนซ กับ ฮูเลียน อัลวาเรซ
ผลคัดบอลโลก 2026 บราซิล บุกเสมอ เวเนซูเอล่า วินิซิอุส พลาดจุดโทษ
แบนเสื้อ เมสซี่ เข้าสนามเกมคัดบอลโลก 2026 ปารากวัย พบ อาร์เจนตินา
AFP/Daniel Duarte
ฮูเลียน อัลวาเรซ พยายามพาบอลหนีผู้เล่นปารากวัย
นาทีที่ 11 อาร์เจนตินา บุกมานำ 1-0 จากจังหวะที่ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ จ่ายให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ที่หลุดกัปดักล้ำหน้าก่อนเกี่ยวบอลลงด้วยขวาและยิงซ้ายเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม
แต่นาทีที่ 19 ปารากวัย มาทวงประตูคืนเสมอ 1-1 วิคเตอร์ วาลาซเกวซ ที่พาบอลเติมขึ้นมาจากสุดเส้นก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ อันโตนิโอ ซานาเบรีย กระโดดยิงจักรยานอากาศ เข้าไปอย่างสวยงาม
นาทีที่ 25 ลิโอเนล เมสซี่ ได้ยิง แต่ถูก ดีเอโก้ โกเมซ เพื่อนร่วมทีมอินเตอร์ ไมอามี่ สกัดไว้ได้ในเขตโทษ
ช่วงท้ายครึ่งแรก แม้ ลิโอเนล เมสซี่ จะพยายามสร้างสรรค์เกม แต่ก็ถูกแนวรับปารากวัย ป้องกันไว้ได้ จบ 45 นาทีแรก เกมยังเสมอ 1-1
กลับมาครึ่งหลัง นาที 47 กลายเป็น ปารากวัย พลิกนำ 2-1 กุสตาโว่ โกเมซ เปิดฟรีคิกเข้าไปให้ให้ โอมาร์ อัลเดเรเต้ กระโดดพุ่งโหม่งย้อนทาง อมิเลียโน่ มาร์ติเนซ หมดสิทธิ์รับ
นาทีที่ 69 อาร์เจนตินา เกือบได้ประตูตีเสมอ แต่ โรดรีโก้ เด ปอล แต่ยิงไปติดตาข่าย
ช่วงท้ายเกม อาร์เจนตินา เร่งเกมอย่างหนักเพื่อหวังจะมีแต้มออกไป แต่เจาะไม่เข้า จบเกม ปารากวัย เฉือนชนะ 2-1 ทำให้ ปารากวัย มีเพิ่มเป็น 16 แต้ม อาร์เจนตินา มี 22 แต้มเท่าเดิมโดยแข่งมากกว่า โคลอมเบีย อันดับ 2 อยู่ 1 นัดและมากกว่า 3 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ปารากวัย (4-3-3) : โรเบร์โต้ เฟร์นานเดซ – วิคเตอร์ วาลาซเกวซ, กุสตาโว่ โกเมซ, โอมาร์ อัลเดเรเต้, จูเนียร์ อลอนโซ่ – ดีเอโก้ โกเมซ, อันเดรส กูบาส, ดาเมี่ยน โบดาดิลล่า – มิเกล อัลมิร่อน, อันโตนิโอ ซานาเบรีย, ฮูลิโอ เอ็นซิโซ่
อาร์เจนตินา (4-3-1-2) : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นาอวล โมลีน่า, คริสเตียน โรเมโร่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, นิโกลัส ตาญาฟิโก้ – เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, โรดรีโก้ เด ปอล, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – ลิโอเนล เมสซี่ – เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, ฮูเลียน อัลวาเรซ
