กรณีชาวบ้าน จ.อ่างทอง คาใจ แห่ศพประท้วงหน้าคุกเขาบิน ราชบุรี หลังญาติติดคุกข้อหายาเสพติดและรับของโจร และกำลังจะพ้นโทษในอีก 5 เดือน แต่โดนหามเข้าโรงพยาบาลเสียชีวิตมีเงื่อนงำ ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดในเรือนจำ ให้ดูเพียงบางส่วน เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ญาติคาใจนักโทษเสียชีวิตมีเงื่อนงำ แห่ศพใส่โลงประท้วงหน้าเรือนจำเขาบิน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. นายศุภโชค ควรฤาชัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าว ระบุว่า ขอเรียนว่า เรือนจำกลางเขาบินรับตัว น.ช.ศุภวัฒน์ จากเรือนจำกลางสมุทรปราการ เข้าคุมขังยังแดนความมั่นคงสูงสุด เนื่องจากผู้เสียชีวิต มีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจ กระทำผิดวินัยหลายครั้ง เป็นกลุ่มแกนนำยุยงปลุกปั่นผู้ต้องขังให้เกิดการทะเลาะวิวาทภายในเรือนจำ ซึ่งในวันรับตัว พยาบาลเรือนจำได้ทำการตรวจร่างกาย พร้อมทั้งตรวจสอบประวัติการเจ็บป่วย พบว่า ผู้เสียชีวิต มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิลหิตสูง และลมชัก พยาบาลเรือนจำจึงได้แจ้งประสานแพทย์โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี
โดยแพทย์ได้ทำการตรวจรักษาและติดตามอาการอย่างต่อเนื่องทุก 4 เดือน ในระหว่างถูกคุมขังที่เรือนจำกลางเขาบิน ผู้เสียชีวิต ได้กระทำผิดวินัยจำนวนหลายครั้ง ด้วยพฤติการณ์ก่อเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายผู้ต้องขังอื่น มีพฤติการณ์แหกหักหลบหนีจากที่คุมขัง และทำลายทรัพย์สินของทางราชการ อีกทั้งมีพฤติการณ์ทำร้ายร่างกายตนเองและพยายายามฆ่าตัวตาย จิตแพย์โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรีวินิจฉัยว่า ผู้เสียชีวิต มีอาการป่วยเป็นจิตเวช ภาวะโรคซึมเศร้า (Modorate depressive episode) ระหว่างนั้น ผู้เสียชีวิต ได้มีอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายตนเองและผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง พยาบาลเรือนจำได้ปรึกษาจิตแพทย์
จิตแพทย์จึงพิจารณาให้ผูกยึดจำกัดพฤติกรรม เพื่อป้องกันการทำร้ายตนเอง ต่อมาเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 13.00 น. ขณะควบคุมตัวอยู่ที่แดน 4 ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม ว่าผู้เสียชีวิต มีอาการชักเกร็ง หมดสติ พยาบาลเรือนจำจึงเข้าทำการตรวจรักษา อาการไม่ทุเลา จึงได้ประสานส่งตัวกรณีฉุกเฉิน โดยแพทย์มีความเห็นให้ส่งตัวออกรักษาเร่งด่วน ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจอมบึง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดในขณะนั้น เพื่อช่วยชีวิตให้ผู้ต้องขังได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ต่อมาแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจอมบึง ได้ส่งตัว ผู้เสียชีวิต ไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี และได้รับการรักษาอาการ เรื่อยมาจนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ระหว่างที่ ผู้เสียชีวิต รับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี ได้เสียชีวิตลง เรือนจำจึงดำเนินการแจ้งญาติทราบ และประสานพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งเจ้าพนักงาน ผู้มีหน้าที่ไปทำการขันสูตรพลิกศพ โดยแพทย์นิติเวช รพ.ราชบุรี ได้ทำการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาสาเหตุการเสียชีวิต ผลปรากฏว่า เสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ร่วมกับไตวายเฉียบพลัน
ในประเด็นญาติกล่าวหาว่าเรือนจำไม่ยอมเปิดเผยกล้องวงจรปิดให้ญาติดู เรือนจำกลางเขาบินขอเรียนชี้แจงว่า เรือนจำได้ให้ญาติเข้าดูภาพวิดีโอกล้องวงจรปิดตลอดจนรับฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และพยาบาลเรือนจำ ถึง 3 ครั้ง คือครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 โดย นายธวัชชัย ญาติที่ปรากฏภาพในข่าว ได้เข้าดูกล้องวงจรปิดช่วงเวลาของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ขณะที่ ผู้เสียชีวิต เริ่มมีอาการป่วย และพยาบาลเรือนจำเข้าทำการตรวจรักษา จนถึงเมื่อส่งตัวไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจอมบึง รวมถึงพฤติกรรมการทำร้ายร่างกายตัวเอง และการทะเลาะวิวาทกับผู้ต้องขังอื่นของ ผู้เสียชีวิต ซึ่งระหว่างดูวิดีโอ นายธวัชชัย มีท่าทีเข้าใจและไม่ติดใจสงสัยแต่อย่างใด ต่อมาภายหลังเมื่อออกมาจากเรือนจำ นายธวัชชัย ได้มีการโทรศัพท์หาบุคคลที่อ้างว่าเป็นพี่สาวอีกคนหนึ่ง ซึ่งยังมีประเด็นติดใจสงสัยอยู่ โดยจะขอเข้าดูวิดีโอกล้องวงจงปิดร่วมกันกันกับพี่สาวอีกครั้ง
โดยเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงให้ญาติทราบว่า ในครั้งหน้าให้นำผู้มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับกรณีร่วมดูวิดีโอด้วย และในครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 นายธวัชชัย พร้อมด้วย พี่สาว และหลานสาว ได้เข้าดูภาพกล้องวงจรปิด และรับฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง และครั้งที่ 3 คือเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 หลังจากที่ ผู้เสียชีวิต เสียชีวิต ญาติได้นำศพของ ผู้เสียชีวิต มาที่เรือนจำกลางเขาบิน เพื่อร้องขอดูวิดีโอกล้องวงจรปิดโดยเรือนจำได้ให้ญาติเข้าพร้อมผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมดูวิดีกล้องวงจรปิด ตลอดจนรับฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ และพยาบาลเรือนจำ
ส่วนในประเด็นญาติติดใจสงสัยว่า ผู้เสียชีวิต ถูกทำร้ายร่างกายจากเจ้าหน้าที่ จากกรณี ญาติได้ไปเยี่ยม ผู้เสียชีวิต ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลว่า มีรอยแดงบริเวณหน้าอกของ ผู้เสียชีวิต นั้น เรือนจำกลางเขาบินขอเรียนชี้แจงว่า เป็นรอยที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาล การฟื้นคืนชีพ (CPR) ไม่ใช้ร่องรอยที่เกิดจากการถูกทำร้ายแต่อย่างใด โดยในวันที่ ผู้เสียชีวิต เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี ญาติและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ก็ได้ร่วมกันตรวจร่างกาย ซึ่งไม่ปรากฏร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ในส่วนของผลการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต ก็ระบุชัดเจนว่ามีสาเหตุเกินจากการติดเชื้อในกระแสเลือดและไตวายเฉียบพลัน
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อประชาชน อันจะก่อให้ผลเสียต่อเรือนจำและขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เรือนจำกลางเขาบินจึงได้มีหนังสือชี้แจงมายังกองบรรณาธิการ เดลินิวส์ออนไลน์ เพื่อโปรดพิจารณานำเสนอข้อมูลตามประเด็นที่เรือนจำกลางเขาบินได้เรียนชี้แจงข้างต้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย