เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีที่ “บอย ศิริชัย” หัวหน้าวงหมอลำใจเกินร้อย ได้ออกมาโพสต์คลิปผ่านเพจเฟซบุ๊ก “คณะหมอลำใจเกินร้อย” ระบุข้อความว่า “ได้ไปทำการแสดงที่ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม ม.4 ตะระหาน อ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร ในคืนของวันที่ 2 มี.ค.2568 โดย “แดนเซอร์“ ภายในวงได้รับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากผู้มาชมการแสดงหน้าเวทีหมอลำ หลังดื่มก็เกิดอาการช็อกหมดสติ มีอาการชาไปทั้งตัวเหมือนไม่รู้สึกตัว แต่ยังหายใจ หลังจากนั้นได้เรียกรถโรงพยาบาลในตัว อ.บึงสามัคคี เข้ามารับตัวเป็นการเร่งด่วน ซึ่งแพทย์ก็ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร เนื่องจากอาการของผู้ป่วยวิกฤตมาก
โดยแพทย์ได้ระบุว่า ร่างกายได้รับสารบางอย่าง โดยได้สอบถามลูกน้องคนอื่นในวงหมอลำก็ทราบว่าแดนเซอร์คนดังกล่าวได้รับทริปจากผู้ชมหน้าเวทีโดยการนำเงินแบงก์พัน พันรอบแก้วเหล้ายื่นให้ดื่ม หลังจากนั้นก็ลงจากเวทีและมีอาการผิดปกติทางร่างกายทันที โดยช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ระหว่างประมาณ 05.00 น. กว่าๆ ของเช้าวันที่ 3 มี.ค.68 ใกล้ทำการแสดงจบแล้ว ตนในฐานะหัวหน้าวงเคยตั้งกฎกติกาว่าห้ามสมาชิกภายในวงรับทริปดื่มเหล้าหน้าเวที นอกเหนือจากความเหมาะสมแล้ว ก็คือความปลอดภัย นอกจากจะมีบุคคลหลากหลายแล้วก็ยังมีความเสี่ยง จากการรับเหล้ามาดื่ม ซึ่งขณะนี้แพทย์กำลังวินิจฉัยอยู่ซึ่งก็ให้นอนดูอาการ 3 วัน เสียทั้งเวลาเสียทั้งงาน ซึ่งจากกระแสที่หลายคนมองว่าน้องๆแดนเซอร์มาหาเงินไม่อยากให้อ้างเหตุผลนี้ เพราะมีค่าตัวที่ได้รับ อย่าเห็นแก่เงิน 1 พันบาท ซึ่งยังมีวิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่านี้ และสมาชิกวงทุกคนต้องสามารถจัดการตัวเองได้ ไม่อยากให้ไปเสี่ยงอันตรายกับวิธีการแลกรับเงินแบบนี้ จนอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับสมาชิกวงตนเองและวงอื่นๆ
ต่อมาเพจเฟซบุ๊ก “คณะหมอลำใจเกินร้อย” ได้โพสต์อัพเดทอาการของ “น้องปอนด์” แดนเซอร์อาการปลอดภัยแล้ว แต่คุณหมอโรงพยาบาลกำแพงเพชร ยังให้รักษาตัวต่อถึงวันที่ 6 มี.ค. ซึ่งสรุปสารที่ผสมมากับเครื่องดื่มนั้นเป็นสารปลุกเซ็กส์และก็มีปริมาณเกินกว่าร่างกายสามารถรับได้จึงทำให้เกิดช็อกดังกล่าว ฝากเป็นบทเรียนสำหรับคนที่ทำงานอาชีพอย่างพวกเราต้องระมัดระวัง คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ดูหน้าดูหลัง เข้าใจว่าอยากได้รางวัลแต่มันเสี่ยงต่อสุขภาพซึ่งเราทำงานทุกวันเดินทางทุกวันอากาศก็ร้อนลำพังเฉพาะแอลกอฮอล์ก็ทำลายสุขภาพมากพอแล้ว และในกรณีนี้ที่ใส่สารอันตรายมาอีกยิ่งหนักไปกันใหญ่ ยังดีที่กรณีของน้องปอนด์ส่งตัวเข้ารักษาได้ทัน ถ้าเกิดว่าเกิดความเสียหายหรืออันตรายถึงแก่ชีวิต จะรับผิดชอบกันยังไง แล้วก็ขอวอนไปถึงบุคคล ที่ใส่สารอันตรายให้น้องในวันนั้นนะครับอย่าไปทำกับใครอีก ถ้าไม่มีสิ่งที่ดีงามมอบให้หรือรางวัลสิ่งใดให้กันก็อย่านำสิ่งที่มันจะก่อให้เกิดอันตรายแบบนั้นให้กันอีกนะครับโดยเฉพาะน้องๆแดนเซอร์เค้าก็หาเช้ากินค่ำ อย่างน้องปอนด์นั้นก็ต้องเสียงาน เสียสุขภาพ เสียขวัญและกำลังใจ กราบขอบพระคุณโรงพยาบาลบึงสามัคคี ท่านคุณหมอและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกำแพงเพชรด้วยนะครับ”
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก ”วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม“ ได้ออกมาโพสต์แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย “พระมหาอภิชาติ กิตติวรัญญู” เจ้าอาวาสฯ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการวัด เดินทางไปเยี่ยม “น้องปอนด์” นายวรายุทธ แดนเซอร์ คณะหมอลำใจเกินร้อย ที่ โรงพยาบาลกำแพงเพชร ในช่วงบ่าย พร้อมนำกระเช้าและมอบปัจจัยส่วนหนึ่งช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และขออภัยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากนี้ไปจะเพิ่มมาตรการเข้มงวดกวดขันให้มากที่สุด โดยกำลังให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฏหมายให้ถึงที่สุด พร้อมประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุดังกล่าว ที่นำความเสื่อมเสียมาสู่หมู่คณะชาวกำแพงเพชร และจะเป็นผลกระทบต่อการจัดงานบุญของวัดในอนาคต การเอายาปลุกเซ็กส์ไปใส่ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ นักแสดงดื่มถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
โดย “พระมหาอภิชาติ กิตติวรัญญู” เจ้าอาวาสฯ ได้โพสต์คลิปพูดถึงประเด็นดังกล่าวว่า “อยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าของการแสดงหมอลำในงานบุญภายในวัดที่จัดให้ชมกันทุกเทศกาลงานบุญ ซึ่งนักแสดงที่มาแสดงก็อยากได้เงินจากการว่าจ้าง ถือว่าเดินทางไกลมาจากภาคอีสานมาเล่นที่กำแพงเพชรก็นับว่าเป็นเกียรติแล้ว แต่กลับถูกคนไม่ดีกระทำเรื่องดังกล่าว สร้างความเสื่อมเสีย ที่ผ่านมามีหมอลำหลายคณะมาทำการแสดงแม้ไกลแค่ไหนแต่หัวหน้าวงรู้จักกันนานหลาย 10 ปีก็เกรงใจอาตมา ถึงมาแสดงให้ชมโดยไม่ปฏิเสธ แม้ระยะทางแสนไกลจากภาคอีสานก็มา ซึ่งเชื่อว่าทุกคณะมาด้วยใจเพราะชาวกำแพงเพชรชอบฟังลำ และอยากร่วมบุญกับทางวัด ซึ่งคนไม่กี่คนกลับมาทำให้เกิดความเสียหาย
นอกจากนี้ “พระมหาอภิชาติ กิตติวรัญญู” เจ้าอาวาสฯ ได้ส่งคลิปกล้องวงจรปิดภายในวัดให้ผู้สื่อข่าวดู ขณะที่หมอลำวงดังกล่าวทำการแสดงใกล้เลิก ช่วงเวลา 05.27 น. เช้าวันที่ 3 มีนาคม 68 พบว่ามี ชาย สวมเสื้อสีขาว อายุประมาณ 35 ปี ลักษณะเป็น LGBTQ ได้ยื่นแก้วเหล้าส่งให้กับแดนเซอร์คนดังกล่าวดื่ม ซึ่งก็ตรงกับเวลาที่แดนเซอร์บอกว่ารับแก้วบริเวณนั้น และหลังจากนี้จะให้คณะกรรมการวัดจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ โดยเบื้องต้นทราบแล้วว่าเป็นใคร
