เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ผู้สื่อข่าวมีรายงานแหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 10/2567 เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีการหารือวาระสำคัญ คือวาระที่ 4 เรื่องที่ 4 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2567 ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) เป็นการใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 เป็นครั้งแรกจำนวน 41 ตำแหน่ง
โดยแหล่งข่าวเผยว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ ยอมรับว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ดำเนินการได้โดยยึดกฎหมายและหลักอาวุโส รวมทั้งพิจารณาความรู้ความสามารถของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเป็นธรรม ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติยอมรับ แม้สื่อมวลชนบางแขนงอาจวิพากษ์วิจารณ์ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซง และมีกระแสข่าวว่า ในวันข้างหน้า ผบ.ตร. อาจถูกโยกไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ เพราะไม่สนองตอบการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ของฝ่ายการเมืองนั้น ข้อเท็จจริงนี้ ขอให้พิจารณาสิ่งที่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้กับสื่อมวลชนหลายสำนักแล้วว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้โปร่งใส
พล.ต.อ.เอก กล่าวกับสื่อมวลชนเมื่อไม่นานมานี้ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง ผบ.ตร.-ผู้บัญชาการครั้งนี้โปร่งใส เป็นธรรม และยึดกฎหมายตำรวจฉบับใหม่และไม่มีฝ่ายการเมืองแทรกแซง ตรงนี้คือสิ่งยืนยัน หาก ผบ.ตร. ไม่ดำเนินการแบบนี้ ปัญหาในองค์กรตำรวจจะไม่จบ เชื่อว่าการทำงานขององค์กรตำรวจจะดีขึ้นและทุกฝ่ายยอมรับ
แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่า ลำดับต่อไปคือการแต่งตั้งโยกย้ายระดับผู้บังคับการ-สารวัตร เชื่อว่าจะมีความโปร่งใส เพราะหากดำเนินการไม่ถูกต้อง ผบ.ตร. จะเป็นลำดับต้น ๆ ที่อาจถูกผู้ใต้บังคับบัญชาร้องเรียนผ่าน กพค.ตร. และศาลปกครองสูงสุด เพราะกฎหมายตำรวจฉบับใหม่ มีความรัดกุม พิจารณาในรูปแบบคณะกรรมการเพื่อป้องกันการแทรกแซงจากฝ่ายต่าง ๆ เพราะหลายปีที่ผ่านมา จะพบการยกเว้นหลักเกณฑ์ของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่บางนาย ที่ขยับตำเหน่งแบบผิดปกติ และบางครั้งในช่วงนั้นก็มีกระแสข่าวว่า มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งผ่านนายตำรวจบางคน จนเกิดความไม่พอใจจากหลายฝ่ายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผบ.ตร. จึงให้หลักการไว้ว่า ในช่วงที่ ผบ.ตร. รับหน้าที่ ปัญหาเหล่านี้ต้องไม่เกิดขึ้น และจะวางระบบไว้เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับ เพราะภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในตอนนี้ มีทั้งบวกและลบ ผบ.ตร. พยายามให้ภาพลบเกิดขึ้นน้อยที่สุด และ ผบ.ตร. พยายามดูแลระบบสวัสดิการของกำลังพลกว่าสองแสนนายทั่วประเทศให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้ตำรวจทุกนายไปกระทำสิ่งผิดกฎหมาย หรือรังแกประชาชน และหากตำรวจนายใดกระทำผิด ต้องมีการสอบสวนและลงโทษขั้นเด็ดขาดโดยเร็ว
ตอนนี้สังคมจะพบว่า คดีสำคัญ ๆ หลายคดีที่เกิดขึ้นนั้น มีการดำเนินคดีที่รอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรม เพราะ ผบ.ตร. ติดตามคดีเหล่านี้ต่อเนื่อง และให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาทุกนายเป็นระยะ ส่วนคดีอื่น ๆ ในช่วงที่ผ่านมานั้น ผบ.ตร. ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วและต้องชี้แจงให้สังคมรับทราบเพื่อคลี่คลายข้อสังเกตของฝ่ายต่าง ๆ เพราะวันนี้ยอมรับว่าสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อมูลรวดเร็วและอาจมีข้อผิดพลาดบ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมที่มีหน้าที่รักษากฎหมายต้องดำเนินการกับเบาะแสเหล่านั้นให้รอบคอบและรวดเร็ว เพื่อให้ข้อสังเกตและข่าวสารที่แชร์กันในโลกออนไลน์ อาจทำให้สังคมสับสน ตรงนี้ ผบ.ตร. กำชับว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องตรวจสอบและคลี่คลายลงโดยเร็ว.