การแข่งขันกรีฑาชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2025 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 26 ที่กูมิซีวิคสเตเดี้ยม เมืองกูมิ ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 27 – 31 พ.ค.68 โดยเมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 เป็นการแข่งขันวันที่ 2
ไฮไลต์ประจำวันคือการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งมีลมกรดไทยผ่านเข้ามาถึงในรอบนี้ 1 คนด้วยกัน ได้แก่ “เทพบิว” ภูริพล บุญสอน นักวิ่งดีกรีเหรียญเงินเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 19 เมื่อปี 2023 ที่ประเทศจีนและรองแชมป์เยาวชนโลก 2024 เมื่อปีก่อนที่ประเทศเปรู ซึ่งทำเวลาในรอบรองชนะเลิศได้ดีที่สุด 10.27 วินาที
สำหรับในรอบชิงชนะเลิศ ภูริพล ลงวิ่งในลู่ที่ 3 ร่วมกับ อากิฮิโระ ฮิกาชิดะ จากญี่ปุ่น(ลู่ 1), ฮัสซัน ทัฟเทียน อดีตแชมป์เอเชีย 2021 จากอิหร่าน(ลู่ 2), ฮิโรกิ ยานากิตะ แชมป์เอเชีย 2023 จากญี่ปุ่น(ลู่ 4), อาลี อัล บาลูชี่ รองแชมป์อาหรับ 2025 จากโอมาน(ลู่ 5), อับดุลลาห์ อับคาร์ โมฮัมเหม็ด รองแชมป์เอเชีย 2023 จากซาอุดีอาระเบีย(ลู่ 6), หวัง เฉิง เจี้ย จากจีน(ลู่ 7) และ มัลฮัม อัล บาลูชี่ จากโอมาน(ลู่ 8)
ผลปรากฏว่า ภูริพล ออกตัวสะดุดนิดหน่อย แต่พอตั้งลำได้ เจ้าตัวเร่งสปีดเต็มที่ พร้อมกับขึ้นมานำคู่กับ ฮิโรกิ ยานากิตะ ก่อนจะเข้าเส้นชัยแทบจะพร้อมกัน จึงต้องตัดสินด้วยภาพถ่าย ซึ่งปรากฏว่า “บิว” เข้าเส้นขัยเป็นอันดับ 2 สถิติ 10.196 วินาที ส่วน ยานากิตะ คว้าเหรียญทอง 10.194 วินาที ซึ่งเร็วกว่า ภูริพล เพียง 0.002 วินาทีเท่านั้น ส่วนเหรียญทองแดงเป็น อับดุลลาห์ อับคาร์ โมฮัมเหม็ด จากซาอุดีอาระเบีย
จากการคว้าเหรียญเงินครั้งนี้ ทำให้ ภูริพล บุญสอน กลายเป็นนักวิ่งไทยคนที่ 4 ที่คว้าเหรียญรางวัลวิ่ง 100 เมตรชาย จากการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชีย ต่อจาก อาณัติ รัตนพล(คว้าเหรียญทอง 100 เมตรชายชิงแชมป์เอเชียเอเชีย 2 สมัยในปี 1973 กับ1975), สุชาติ แจสุรภาพ (คว้าเหรียญทองวิ่ง 100 เมตรชายชิงแชมป์เอเชีย 3 สมัย 1979, 1981 กับ 1983 และเหรียญเงินปี 1973) และ สุเมธ พรหมณะ (คว้าเหรียญเงินชิงแชมป์เอเชียปี 1983 และเหรียญทองแดงปี 1981)
ส่วนผลการแข่งขันในอีเวนต์อื่นของนักกีฬาไทยมีดังนี้ เริ่มจาก กระโดดค้ำหญิงรอบชิงชนะเลิศ “เกี๊ยว” ชลธิชา คะบุตร เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ 2023 พลาดคว้าเหรียญรางวัลไปอย่างน่าเสียดาย หลังคว้าอันดับ 4 สถิติ 3.98 เมตร ส่วน “อ๋อมแอ๋ม” ชญาณิศา ชมชื่นดี ดีกรีเหรียญทองแดงชิงแชมป์เอเชีย 3 สมัย ไม่มีสถิติหลังกระโดดไม่ผ่านทั้ง 3 ครั้งในการเรียกความสูงครั้งแรกที่ 3.43 เมตร ขณะที่เหรียญทองเป็นของ หนิว ชุน เก๋อ(จีน) 4.48 เมตร, เหรียญเงิน หู ฮุย ฉิน(จีน) 4.23 เมตร และเหรียญทองแดง มิซากิ โมโรตะ(ญี่ปุ่น) 4.13 เมตร
วิ่งผลัดผสม 4X400 เมตร ทีมไทยที่ประกอบด้วย จิรทีปต์ บุญดี(ไม้ 1), อริสา เวฬุวนารักษ์(ไม้ 2), จิรายุ ปลีนารัมย์(ไม้ 3) และ เบนนี่ โนนทะนำ(ไม้ 4) เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 7 สถิติ 3.26.05 น. โดยเหรียญทองได้แก่อินเดีย 3.18.12 น., เหรียญเงิน จีน 3.20.52 น. และเหรียญทองแดง ศรีลังกา 3.21.95 น.
ขว้างค้อนชายรอบชิงชนะเลิศ กิตติพงศ์ บุญมาวัน เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา เมื่อ 2 ปีก่อน ทำสถิติได้ 61.81 เมตร ได้อันดับ 12 แต่สถิติดังกล่าวคือซีซั่นเบสต์ของเจ้าตัว ด้านเหรียญทองเป็น หวัง ฉี(จีน) 74.50 เมตร, เหรียญเงิน ทัตสึโตะ นาคางาวะ(ญี่ปุ่น) 71.97 เมตร และเหรียญทองแดง โชตะ ฟุกุดะ(ญี่ปุ่น) 71.89 เมตร
เขย่งก้าวกระโดดชายรอบชิงชนะเลิศ “ภูมิ” ภูมิพัฒน์ ขุนมังกร ทำสถิติได้ 16.02 เมตร จบอันดับที่ 8 ส่วน “ป๋อง” ณัฐพงศ์ ศรีนนทา ทำสถิติได้ 15.73 เมตร รั้งอันดับ 11 ส่วนเหรียญทองได้แก่ จู หยา หมิง(จีน) 17.06 เมตร, เหรียญเงิน ปราวีณ จิตราเวล(อินเดีย) 16.90 เมตร และ เหรียญทองแดง ยู กยู มิน(เกาหลีใต้) 16.82 เมตร
