เปิดเหตุผลว่าทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญากองหน้าในวันปิดตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม
มิร์เรอร์ สื่อดังจากอังกฤษ รายงานว่า การไล่ล่ากองหน้าเข้าสู่ทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากสถานะทางการเงินที่ไม่แน่นอน แม้ว่า รูเบน อโมริม มีความกระตือรือร้นที่จะเซ็นสัญญากับดาวยิงคนใหม่ก็ตาม
“ปีศาจแดง” เซ็นสัญญากับผู้เล่นใหม่ 2 คนในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคม ได้แก่ แพทริก ดอร์กู และ เอเดน เฮเว่น กองหลังจากเลชเช่และอาร์เซน่อลตามลำดับ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ คือกองหน้าคนใหม่
AFP/AFP
รูเบน อโมริม กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ขณะที่ ราสมุส ฮอจลุนด์ และ โจชัว เซิร์กซี่ ยิงประตูรวมกันได้เพียง 5 ประตูในฤดูกาลนี้ แม้ว่าทั้งคู่จะมีมูลค่ารวมกันถึง 108 ล้านปอนด์ มีเพียง 4 ทีม ในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น ที่ยิงประตูได้น้อยกว่าแมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้
แต่ถึงแม้จะต้องซื้อกองหน้าคนใหม่ แต่สัญญาเดือนมกราคมต้องถูกระงับจากผู้บริหารที่อยู่เหนือกว่า อโมริม เฮดโค้ชแมนยู โดย ผู้บริหารแมนฯ ยูไนเต็ด พอใจกับธุรกิจของพวกเขาในช่วงตลาดนักเตะ และจำเป็นต้องใช้วิธีจัดการการเงินอย่างมีวินัยกับรายรับและรายจ่าย
ผู้บริหารระดับสูงไม่พร้อมที่จะเสี่ยงราคาแพงด้วยการจ่ายค่าธรรมเนียมยืมตัวสูงสำหรับผู้เล่นดาวรุ่งที่ยังพิสูจน์ตัวเองไม่ได้โดยไม่มีตัวเลือกในการซื้อ เช่นเดียวกับ ที่บาเยิร์น มิวนิค เรียกร้องสำหรับ มาติส แตล กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส โดย แมนฯ ยูไนเต็ด เชื่อว่าความรอบคอบดังกล่าวทำให้พวกเขามีขอบเขตที่กว้างขึ้นสำหรับช่วงซัมเมอร์ ซึ่งมีตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้เล่นที่เหมาะกับแผนระยะยาวของ อโมริม
แมนฯ ยูไนเต็ด เชื่อว่าพวกเขาได้ทำธุรกิจสำคัญสองอย่างด้วยการส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อัน
โตนี่ ออกไปด้วยสัญญายืมตัวซึ่งค่าจ้างส่วนใหญ่ของพวกเขาได้รับการจัดการโดย แอสตัน วิลล่า และ เรอัล เบติส ตามลำดับ
ด้วยการที่ ปีศาจแดง ทำงานภายใต้ข้อจำกัดทางการเงินที่เข้มงวดมาก ท่ามกลางข้อจำกัดด้านผลกำไรและความยั่งยืน หรือ PSR ผู้บริหารระดับสูงจึงรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับสโมสร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางระยะยาวโดยรวมเพื่อลดต้นทุนและทำให้ธุรกิจมีความยั่งยืนมากขึ้น จะต้องได้รับผลกระทบจากการทำข้อตกลงระยะสั้นที่มีราคาแพงในช่วงตลาดเดือนมกราคมนั้นเอง
