เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 5 นครศรีธรรมราช ได้ออกสำรวจติดตามและประเมินสถานภาพสัตว์ทะเลหายาก ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ช่วงวันที่ 11-13 ก.พ. ได้พบวาฬบรูด้า (Balaenoptera Eden) หากินอยู่ในพื้นที่ประมาณ 6-10 ตัว และโลมาหลังโหนก (Sousa chinensis) จำนวน 3 ตัว โดยเจ้าหน้าที่ทำการจัดเก็บภาพถ่ายอัตลักษณ์ เพื่อระบุรายชื่อและจำนวนประชากรที่พบกับฐานข้อมูลการจำแนกประชากรวาฬบรูด้าในอ่าวไทย เพื่อติดตามสถานภาพเพื่อการอนุรักษ์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้พบวาฬบรูด้า จำนวน 3 ตัว บริเวณเกาะแปยัด และถัดมาวันที่ 11 ก.พ. พบวาฬบรูด้า 5 ตัว บริเวณทิศตะวันตกเกาะโลนบาน ซึ่งได้พบทุกวันต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์และคาดว่าเป็นวาฬบรูด้าฝูงเดียวกันที่วนเวียนหากินอยู่ในบริเวณเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของทะเลไทย

นายพีระชัย คงแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง กล่าวว่า ขอแจ้งผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวและนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวอุทยานช่วงนี้ ถ้าพบวาฬบรูด้า ขอให้ดับเครื่องยนต์เรือ ไม่ควรนำเรือเข้าใกล้วาฬมากกว่ารัศมี 300 เมตร และไม่ควรเปลี่ยนทิศทางและความเร็วเรือ ไม่ควรแล่นเรือขวางหรือไล่ตามวาฬ รวมถึงถ้าวาฬว่ายน้ำออกจากตำแหน่งที่มองเห็น ไม่ควรเร่งเครื่องยนต์ตามเพื่อที่เราจะพบได้อีกในปีต่อๆ ไป

สำหรับ วาฬบรูด้า เป็นสัตว์ทะเลหายากในท้องทะเลไทย ที่มีอัตราการเสียชีวิตเกิดขึ้นช่วงต้นปีที่ผ่านมาจำนวนหลายตัว อาจส่งผลกระทบต่อการอยู่รอดของประชากรวาฬบรูด้าในทะเลไทยได้ เนื่องจากวาฬบรูด้าเป็น 1 ใน 27 ชนิดของโลมาและวาฬในทะเลไทยที่ทำการศึกษาในเชิงสถานภาพและการแพร่กระจายจำกัดอยู่ในกลุ่มประชากรใกล้ฝั่ง ขณะนี้ได้ขึ้นทะเบียนวาฬบรูด้าและวาฬโอมูระ เป็นสัตว์ป่าสงวนลำดับที่ 16 และ 17 ของประเทศไทย.