เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเพจเฟซบุ๊ก “สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคใต้” ได้โพสต์ภาพและเรื่องราวระบุว่า สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯสาขาภาคใต้ ขอเชิดชูเกียรติพยาบาลผู้ทำความดี โดยเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 67 เวลาประมาณ 19.45 น ระหว่างที่ พว.กิตติธัช ไมตรีจิตต์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ และ พว.วรรณพร ไมตรีจิตต์ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กำลังเดินทางจากภูเก็ตไปสุวรรณภูมิ ด้วยเที่ยวบิน PG278 ขณะรอผู้โดยสารท่านอื่นเข้ามาในเครื่อง มีผู้โดยสารท่านหนึ่ง หมดสติล้มลงกับพื้นบริเวณทางเข้าเครื่องบิน
ทั้งสองซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นเห็นแอร์สาวเดินออกไปดูด้วยท่าทีผิดปกติ จึงออกไปดูพบชาวต่างชาติหมดสติอยู่บนพื้น จึงทำการปลุกเรียก ไม่รู้สึกตัว แต่ยังคลำชีพจรได้และยังหายใจ ถามประวัติจากเพื่อนที่มาด้วยทราบว่ามีอารท้องเสีย อาเจียน เพลีย ไม่มีเเรง จึงได้ขออุปกรณ์กระเป๋าฉุกเฉินบนเครื่องบินมาประเมินวัดสัญญาณชีพ และได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทุกอย่างปกติ สักพักผู้ป่วยเริ่มรู้สึกตัว ถามตอบพอรู้เรื่อง ลุกขึ้นยืนและเดินได้ จึงย้ายผู้ป่วยมายังที่นั่งโดยสาร ทั้งสองได้พูดคุยกับพนักงานบนเครื่องบิน ทุกอย่างเป็นปกติสามารถดำเนินการต่อไปได้ แอร์จึงสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบิน นักบินนำเครื่องขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน ระหว่างที่เครื่องได้ออกจากสนามบินภูเก็ต พนักงานกำลังแจกอาหารบนเครื่อง มีผู้ป่วยหมดสติอีกรายบนเครื่องบิน ผู้โดยสารข้าง ๆ เห็นว่าท่าทางจะไม่ดี เลยกดปุ่มเรียกพนักงานบนเครื่องมาช่วยดู แต่ดูเหมือนคนไข้จะอาการแย่ลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดมีแอร์สาวคนนึงตัดสินใจ ไปพูดออกลำโพงเพื่อประกาศขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน จากทุกคนบนเครื่องบิน ตามหาคนที่เป็นบุคคลากรทางการแพทย์มาช่วยเหลือ
พอประกาศจบ ระหว่างที่คนในเครื่องกำลังแตกตื่น ทั้งสองจึงลุกขึ้นมาจากบริเวณที่นั่งด้านหน้า เดินเข้ามาแสดงตนอีกครั้งกับพนักงาน แล้วรีบตรงมาที่คนไข้ และประเมินอาการอย่างละเอียดตามสิ่งที่ได้เรียนมา และวิ่งไปขอกระเป๋าฉุกเฉินอีกครั้ง ผู้ป่วยรู้สึกตัวขึ้น เรียกลืมตา คลำชีพจรได้เบา ใบหน้าซีด ท่าทางอิดโรย สอบถามอาการพบว่า ทานอาหารครั้งสุดท้ายเมื่อวาน มีอาการปวดท้อง อาเจียนเป็นน้ำสีเขียวมากกว่า 10 ครั้ง ถ่ายเหลวมากกว่า 5 ครั้ง ได้ทำการประเมินวัดสัญญาณชีพ และได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เปิดเส้นให้สารน้ำ และได้ให้ยาฉีดแก้คลื่นไส้อาเจียน จากนั้นทั้งสองคนจึงย้ายที่นั่งไปนั่งใกล้ ๆ ผู้ป่วยเพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
กระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่นานนัก และผู้ป่วยทั้งสองรายก็มีอาการที่ดีขึ้นตามลำดับ เตรียมตัวส่งเข้าโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากถึงกรุงเทพแล้ว ท่ามกลางสถานการณ์ที่คับขัน เครื่องบินอยู่ในสภาพอากาศแปรปรวน จากการที่ได้พูดคุยกับแอร์สาวบนเครื่องทั้งสี่ท่าน เหตุการณ์เช่นนี้ ไม่เคยมีผู้ป่วยฉุกเฉินพร้อมกันถึงสองรายในเที่ยวบิน
ในการนี้ สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯสาขาภาคใต้ ขอแสดงความชื่นชมและขอเชิดชูเกียรติ พว.กิตติธัช ไมตรีจิตต์ และ พว.วรรณพร ไมตรีจิตต์ ที่ได้เสียสละและใช้ความรู้ทางวิชาชีพทำความดีจนเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม.