ตามที่ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญ ผบก.สส.ภาค 2 ได้มีคำสั่งให้ตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 เร่งรัดจับกุมคดีหมายจับค้างเก่า รวมถึงการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ ในช่วงก่อนเทศกาลลอยกระทง นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 67 พ.ต.ต.ณัฐพล จินตเดช สว.กก.สส.1 ภาค 2 ร.ต.อ.พยอม หอมวัฒนวงศ์, ร.ต.อ.เอกชัย ไชยอำพร รอง สว. พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 ร่วมกับ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองปรือ นำหมายจับศาลจังหวัดพัทยา เลขที่ 392/2567 ลงวันที่ 26 ก.ค. 67 เข้าทำการจับกุม น.ส.สุพัตรา (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ฐานกระทำความผิด “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น” โดยสามารถจับกุมได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ภายในซอยชากนอก 19 หมู่ 4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
การจับกุม น.ส.สุพัตรา สืบเนื่องจากเมื่อช่วงประมาณต้นเดือน ก.ค. 67 นายลามะ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ถูก น.ส.สุพัตรา อดีตแฟนสาว ซึ่งร่วมมือกับ นายน็อต แฟนใหม่ ใช้แท่งเหล็กประแจขันนอตล้อรถยนต์ กระหน่ำฟาด นายลามะ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แถมยังถูกนายน็อต แฟนใหม่ กระทืบซ้ำจนสลบ ก่อนที่ทั้งคู่จะหลบหนีไป จากนั้น นายลามะ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.หนองปรือ จนกระทั่งมีการออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน จนสามารถจับกุม น.ส.สุพัตรา ได้ดังกล่าว ส่วนนายน็อต เบื้องต้นทราบว่า จำคุกอยู่เรือนจำพิเศษพัทยา ในข้อหายาเสพติด
สอบสวน น.ส.สุพัตรา ซึ่งกำลังตั้งท้องได้ 5 เดือน ให้การภาคเสธว่า ได้ใช้ประแจกระหน่ำฟาดนายลามะ จนได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะถูกจับในข้อหาพยายามฆ่า เพียงคิดว่าน่าจะเป็นข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย ส่วนสาเหตุเนื่องจากตนเองจับได้ว่า นายลามะ มีภรรยาอยู่แล้ว แต่ยังแอบมามีความสัมพันธ์กับตน มิหนำซ้ำยังแอบถ่ายคลิปตอนมีเพศสัมพันธ์ ตอนนั้นตนพยายามตีตัวออกห่าง แต่นายลามะ ไม่ยอมเลิกรา แถมยังส่งคลิปวิดีโอตอนมีเพศสัมพันธ์ส่งไปประจานกับลูกชาย วัย 11 ขวบ ทำให้ลูกชายรับไม่ได้ เสียใจและร้องไห้อย่างหนัก ด้วยความแค้น จึงร่วมมือกับ นายน็อต ซึ่งกำลังคบหาดูใจกันอยู่ในขณะนั้น ร่วมก่อเหตุทำร้าย นายลามะ ส่วนนายน็อต ก่อนเกิดเหตุ เคยถูกนายลามะ ขับรถไล่ชน จึงเกิดความแค้น ซึ่งหลังจากที่ตนใช้ประแจกระหน่ำฟาด นายลามะ จนบาดเจ็บ ก่อนจะถูกนายน็อต กระทืบซ้ำจนสลบ ก็พากันหลบหนีไป จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว
เบื้องต้น ตำรวจสืบสวน ภาค 2 ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ไปบันทึกจับกุมที่ สภ.หนองปรือ ก่อนจะส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.