กรณี นางพิมลวรรณ กลั่นผลหรั่ง อายุ 57 ปี ออกมาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน ระบุว่าได้ให้นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เข้ามาเช่าบ้านสวนของตัวเอง ซึ่งมีเนื้อที่ 2 ไร่เศษ เปิดเป็นร้านอาหาร บ้านสวนครูปรีชา ในราคาเช่าเดือนละ 5,000 บาท พร้อมทำสัญญาเช่าครั้งละ 3 ปี มาตั้งแต่ปี 2560 ก่อนจะมาเปลี่ยนทำสัญญาแบบปีต่อปี และสัญญาเช่าได้สิ้นสุดลงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า เมื่อครูปรีชาย้ายของออก กลับไม่ชำระค่าเช่าบ้านในเดือนสุดท้าย 5,000 บาท อีกทั้งยังค้างค่าไฟฟ้ารวม 2 เดือนเป็นเงินมากกว่า 4,000 บาท ทำให้บ้านถูกตัดไฟ สภาพบ้านก็อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรมพยายามติดต่อ ให้ครูปรีชามารับผิดชอบ กลับถูก บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ทำให้ต้องออกมาร้องสื่อ และกลายเป็นข่าวดังไปทั่ว กระทั่ง ครูปรีชาได้ออกมาพูดคุยกับนางพิมลวรรณผ่านทางรายการดังช่องหนึ่ง และได้มีการพูดคุยตกลงกันว่า จะดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านหลังดังกล่าวตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

‘ครูปรีชา’ ยิ้มหวาน! ลุยปรับปรุงบ้านเช่า ยันไม่เคยผิดสัญญา พร้อมส่งคืน

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพิมลวรรณ พร้อมด้วยน้องสาว และครูปรีชา ซึ่งเป็นผู้เช่าบ้าน ได้เดินทางเข้ามาตรวจดูสภาพบ้านของนางพิมลวรรณ ร่วมกัน หลังครูปรีชา นำช่างเข้ามาดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านให้กลับสู่ในสภาพเดิมเพื่อจะส่งคืนให้กับนางพิมลวรรณตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ ผลการตรวจสอบพื้นที่ภายในบ้าน พบว่าได้มีการดำเนินการซ่อมแซมตามจุดต่างๆ จนเสร็จเรียบร้อยตามที่ครูปรีชาได้รับปากเอาไว้

รวมถึงพื้นที่ด้านข้างบ้านที่มีการขุดเป็นบึงบัวและบ่อปลา ก็ได้มีการนำดินมากลบพื้นที่ทั้งสองแห่งพร้อมปรับพื้นที่ให้เรียบร้อยแล้ว ทำให้นางพิมลวรรณ พอใจกับสภาพบ้านที่ได้รับการซ่อมแซมจนกลับสู่ในสภาพเดิม ก่อนทั้งสองฝ่ายจะได้เซ็นสัญญาส่งมอบบ้านคืนต่อกัน

โดยทางฝั่งของนางพิมลวรรณ ยินดี จ่ายค่าภาษีโรงเรือน ที่ครูปรีชาเป็นผู้จ่ายไป ในช่วงที่เข้ามาเช่าบ้าน คืนให้กับครูปรีชา เป็นเงิน 4,000 บาท ก่อนทั้งสองฝ่ายจะจับมือ จบปัญหาข้อพิพาทระหว่างกัน และยืนยันว่าจะไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อกันอีก พร้อมจะกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอีกครั้ง