กลุ่ม เอ
1. อุซเบกิสถาน : 9 แต้ม, ประตูได้-เสีย +7
2. ซาอุดีอาระเบีย : 6 แต้ม, ประตูได้-เสีย 0
3. จีน : 3 แต้ม, ประตูได้-เสีย 0
4. ไทย : 0 แต้ม, ประตูได้-เสีย -7
กลุ่ม บี
1. ญี่ปุ่น : 4 แต้ม, ประตูได้-เสีย +2
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ : 4 แต้ม, ประตูได้-เสีย -1
3. ออสเตรเลีย : 4 แต้ม, ประตูได้-เสีย -1
4. เวียดนาม : 3 แต้ม, ประตูได้-เสีย 0
หมายเหตุ : สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กับ ออสเตรเลีย มีแต้มและประตูได้-เสียเท่ากัน แต่ฝ่ายแรกได้เข้ารอบ เนื่องจากตอนเจอกันในการวัดแบบ “เฮด-ทู-เฮด” พวกเขาเอาชนะทัพออสซี่ 2-0
กลุ่ม ซี
1. อินโดนีเซีย : 9 แต้ม, ประตูได้-เสีย +6
2. เกาหลีใต้ : 6 แต้ม, ประตูได้-เสีย +6
3. เยเมน : 3 แต้ม, ประตูได้-เสีย -2
4. อัฟกานิสถาน : 0 แต้ม, ประตูได้-เสีย -10
กลุ่ม ดี
1. ทาจิกิสถาน : 6 แต้ม, ประตูได้-เสีย 0
2. เกาหลีเหนือ : 5 แต้ม, ประตูได้-เสีย +3
3. โอมาน : 4 แต้ม, ประตูได้-เสีย 0
4. อิหร่าน : 1 แต้ม, ประตูได้-เสีย -3
สรุปทีมที่ได้เข้าไปลุยต่อในรอบก่อนรองชนะเลิศ หรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย และทั้งหมดนี้จะได้สิทธิ์ไปโชว์ฝีเท้าในศึกฟุตบอลโลก U17 2025 ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งจะฟาดแข้งกันระหว่างวันที่ 3-27 พฤศจิกายน ปีนี้ อีกด้วย
– อุซเบกิสถาน
– ซาอุดีอาระเบีย
– ญี่ปุ่น
– สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
– อินโดนีเซีย
– เกาหลีใต้
– เกาหลีเหนือ
– ทาจิกิสถาน
หมายเหตุ : ทวีปเอเชีย ได้โควต้า 9 ทีม ซึ่งนอกจาก 8 ทีมดังกล่าวแล้ว ยังมี กาตาร์ ชาติเจ้าภาพ ซึ่งได้สิทธิ์โดยอัตโนมัติด้วย
ประกบคู่รอบก่อนรองชนะเลิศ พร้อมวันแข่งขัน
วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน
– อุซเบกิสถาน พบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
– ญี่ปุ่น พบ ซาอุดีอาระเบีย
วันจันทร์ที่ 14 เมษายน
– อินโดนีเซีย พบ เกาหลีเหนือ
– ทาจิกิสถาน พบ เกาหลีใต้
รอบรองชนะเลิศ (แข่งขันวันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน ทั้งสองคู่)
– อุซเบกิสถาน หรือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบ อินโดนีเซีย หรือ เกาหลีเหนือ
– ญี่ปุ่น หรือ ซาอุดีอาระเบีย พบ ทาจิกิสถาน หรือ เกาหลีใต้
สำหรับเกมรอบชิงชนะเลิศ จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน ที่สนาม คิง ฟาฮัด สปอร์ตส์ สเตเดี้ยม
