“วิว กุลวุฒิ” เจ็บถอนตัวแบดฟินแลนด์, “บาส-สกาย” พ่ายคู่มือ2 โลก
ก่อนหน้านี้ อโมริม เคยตกเป็นข่าวกับทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาแล้ว ซึ่งหากพิจารณาถึงผลงานของเขากับ สปอร์ติ้ง มันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะถึงแม้จะเพิ่งเข้าไปรับงานกับทีมในปี 2020 แต่เขาก็พาทีมได้แชมป์ลีกสูงสุดของที่นั่นไปแล้ว 2 สมัย, ได้แชมป์ ทาก้า ดา ลีก้า 2 หน และ ซูเปอร์ทาก้า คันดิโด้ เด โฮลิเวยร่า 1 สมัย
นอกจากนี้ ปัจจุบัน สปอร์ติ้ง ก็กำลังทำผลงานได้สุดยอดในลีกด้วย เพราะเล่นไปแล้ว 9 นัดและเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด ซึ่งวันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ อโมริม เคยสร้างสถิติหรือเกร็ดที่น่าสนใจอะไรเอาไว้บ้าง
– แชมป์ที่รอคอย
ในวันที่ 4 มีนาคม ปี 2020 สปอร์ติ้ง ตัดสินใจดึง อโมริม มาจาก บราก้า ทีมร่วมลีกสูงสุดของโปรตุเกส ทั้งที่ตอนนั้นเจ้าตัวเพิ่งทำงานกับ บราก้า ได้เพียงแค่ 2 เดือน แถมยังจ่ายเงินถึง 10 ล้านยูโร จนทำให้เขาเป็นกุนซือที่มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกในตอนนั้นอีกต่างหาก
ในช่วงนั้นหลายคนตำหนิบอร์ดบริหารของ สปอร์ติ้ง ว่าเพี้ยนไปแล้วที่กล้าทุ่มเงินก้อนโตกับกุนซือหนุ่มที่ยังพิสูจน์ตัวเองได้ไม่ถึง 1 ฤดูกาลดีเลย แต่เขาก็ลบคำครหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว หลังพาทีมได้แชมป์ลีกในฤดูกาล 2020-21 ซึ่งนั่นถือเป็นแชมป์ลีกสูงสุดหนแรกในรอบ 19 ปีของ สปอร์ติ้ง เลยทีเดียว
– แพ้ยาก
ในฤดูกาล 2020-21 ที่ได้แชมป์ลีกนั้น สปอร์ติ้ง ของ อโมริม ยังโหดมากๆ จนถึงขนาดที่ว่าเคยไม่แพ้ใครในลีก 32 นัดติดต่อกัน ก่อนจะมาเสียท่าให้กับ เบนฟิก้า 3-4 ในนัดรองสุดท้ายของฤดูกาล
ถึงกระนั้น แค่นั้นมันก็ทำให้ สปอร์ติ้ง สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นทีมที่ไม่แพ้ใครติดต่อกันภายในฤดูกาลเดียวกันนานที่สุดในลีกของโปรตุเกสแล้ว โดยจากจำนวน 32 เกมที่ว่านั้นประกอบด้วยการชนะ 25 เกมกับเสมอ 7 หน ส่วนนัดสุดท้ายของฤดูกาลพวกเขาก็แก้ตัวด้วยการเปิดบ้านถล่ม มาริติโม่ 5-1 นั่นหมายความว่าตลอดทั้งซีซั่นนั้น สปอร์ติ้ง แพ้ในลีกแค่เกมเดียว
– แตะหลักไว
หลังได้แชมป์ลีกสูงสุดหนแรกกับทีมแล้วนั้น อโมริม ก็ยังพา สปอร์ติ้ง ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง จนในวันที่ 28 พฤศจิกายน ปี 2021 เขาก็กลายเป็นกุนซือที่เก็บชัยในเกม พรีเมยร่า ลีกา แตะหลัก 50 นัดเร็วที่สุดตลอดกาล จากการนำทีมเปิดบ้านชนะ ทอนเดล่า 2-0
– พาทีมสัมผัสรอบน็อกเอาต์ ชปล.
ในฤดูกาล 2021-22 สปอร์ติ้ง ของ อโมริม ได้สิทธิ์เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยในรอบแบ่งกลุ่มนั้นพวกเขาถูกจับไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ เบซิคตัส ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนไม่เชื่อว่า สปอร์ติ้ง จะผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ได้
อย่างไรก็ตาม สปอร์ติ้ง ก็จบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นที่ 2 จากผลงาน 9 แต้ม โดยในรอบแบ่งกลุ่มนั้นทีมของ อโมริม เคยเปิดบ้านชนะ ดอร์ทมุนด์ 3-1 ด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้ซีซั่นนั้น สปอร์ติ้ง ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นหนแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2008-09 เลย ก่อนที่พวกเขาจะไปตกรอบด้วยน้ำมือของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
– ที่ 2 ของทีม
จนถึงตอนนี้ อโมริม กุมบังเหียน สปอร์ติ้ง มาแล้ว 223 นัดในทุกรายการ และพาทีมเก็บชัยชนะได้ 158 เกม หรือคิดเป็น 70.85 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เขาถือเป็นกุนซือ สปอร์ติ่ง ที่มีเปอร์เซ็นต์พาทีมชนะมากเป็นอันดับ 2 หากนับเฉพาะคนที่อยู่ในตำแหน่งอย่างน้อย 100 นัด โดยที่ 1 คือ โยซเซฟ ซาโบ ที่เคยคุม สปอร์ติ้ง ระหว่างปี 1937-1944 พร้อมกับมีเปอร์เซ็นต์ชนะ 76.92 เปอร์เซ็นต์
– เด็กเกร็ดบอล –