เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งจาก นายขวัญชัย อายุ 37 ปี พนักงานขับรถเมล์สาย 32 วิ่งระหว่างวัดโพธิ์ วัดบ่อ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และนางนัฏฐิพร อายุ 36 ปี กระเป๋ารถเมล์ ว่าขณะขับรถส่งผู้โดยสารมาตามถนนประชาราษฎร์ สาย 1 ได้มีคนขี่รถ จยย.ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตามหาเรื่องโดยไม่ทราบสาเหตุ จนถูกดักปากระจกหน้ารถแตกเสียหาย เกรงไม่ปลอดภัย จึงมาแจ้งความให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
โดยนายขวัญชัย คนขับรถเมล์ กล่าวว่า ขณะขับรถส่งผู้โดยสารตามปกติ จนมาถึงสถานีรถไฟฟ้าแยกบางโพ กทม. สังเกตเห็นคนขี่รถ จยย.เป็นวัยรุ่น แต่งตัวคล้าย พนักงานส่งเอกสาร ขับปาดหน้ารถโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่ตนขับรถส่งผู้โดยสารไม่ได้ขับเร็วหรือไปปาดหน้าใคร เพราะบนรถมีผู้โดยสารเต็มคัน กลัวจะไม่ปลอดภัย กลัวว่าผู้ก่อเหตุจะมาดักทำร้าย เพราะต้องขับรถเส้นทางนี้เป็นประจำทุกวัน
นางนัฏฐิพร กระเป๋ารถเมล์ กล่าวว่า สามี เป็นคนขับรถรับส่งผู้โดยสารตามปกติ ไม่ได้ไปมีเรื่องกับคนขี่รถจยย.เลย โดยครั้งแรกขับมาถึงหน้าโรงเรียนโยธินบูรณะ เพื่อจอดให้ผู้โดยสารลง ได้ยินเสียงดังเหมือนกระจกรถถูกปา มองแล้วไม่มีรอยแตก แต่สังเกตเห็นว่าคนขี่รถ จยย.ยืนเกาะกลาง แล้วใช้สิ่งของปาใส่รถ เหมือนเป็นขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้โดยสารในรถต่างก็ตกใจ แล้วบอกว่าให้ออกรถ เพราะคิดว่าเป็นพวกเด็กช่างตีกัน จนขับผ่านแยกไฟแดงสปีดไทม์ ถนนพิบูลสงคราม ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี สังเกตเห็น คนขับรถ จยย.คนเดิมขับตามมาและถือก้อนหิน มายืนดักรอตรงเกาะกลางแล้วปาหินใส่กระจกหน้ารถฝั่งคนขับ จนกระจกแตก เหมือนเจตนาจะปาใส่คนขับ แต่โชคดีก้อนหินไม่ทะลุเข้ามาในรถ กลัวผู้โดยสารจะไม่ปลอดภัย เลยบอกให้ผู้โดยสารหมอบลงกับพื้น หลังจากส่งผู้โดยสารหมด รถไม่สามารถขับรับส่งผู้โดยสารได้ จึงขับกลับไปเก็บที่อู่รถเมล์ ที่อำเภอไทรน้อย ก่อนจะเดินทางเข้าแจ้งความ
นางนัฏฐิพร กระเป๋ารถเมล์ กล่าวอีกว่า รู้สึกกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเราต้องขับรถเส้นทางนี้ทุกวัน กลัวคนก่อเหตุจะมาดักทำร้าย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเกิดเหตุ เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.