
รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะนำทัพ “ปีศาจแดง” เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด […]
วันพืชมงคล หรือพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็นหนึ่งในพระราชพิธีสิบสองเดือนของประเทศไทย ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม (เดือน 6 ตามโหราศาสตร์ไทย) ของทุกๆ ปี วันพืชมงคลปี 2568 ตรงกับวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2568 เหตุที่เป็นช่วงนี้เนื่องจากเป็นช่วงของการเริ่มฤดูการเพาะปลูก ฤกษ์ยามของวันที่ประกอบพิธีนั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่งต้องเป็นวันที่ดีที่สุดของแต่ละปีประกอบไปด้วย ขึ้นแรม ฤกษ์ยาม ต้องเป็นอุดมฤกษ์ตามตำราโหราศาสตร์ ทำให้ในแต่ละปีนั้นวันพืชมงคลจึงมีวันที่ไม่ตรงกัน โดยในวันพืชมงคลจะมี 2 พิธีที่ทำร่วมกันได้แก่ พิธีพืชมงคล และ พิธีแรกนาขวัญ พระราชพิธีเหล่านี้จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ตำนานวันพืชมงคล มีความเป็นมาอย่างไร มาติดตามกันได้เลยค่ะ
แรกเริ่มเดิมทีนั้นพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญนั้นเกิดขึ้นครั้งแรกในเมืองไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย นับเป็นพระราชพิธีที่มีความเก่าแก่มาก อีกทั้งยังมีความสำคัญสืบเนื่องด้วยเมืองไทยนั้นเป็นเมืองแห่งการเพาะปลูก และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในด้านความสิริมงคลของเกษตรกร ซึ่งรายละเอียดการประกอบพิธีนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และได้มีการหยุดประกอบพิธีไปเมื่อปี พ.ศ. 2480 เนื่องจากสถานการณ์ในบ้านเมืองในตอนนั้น และได้กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งในปี พ.ศ. 2503
หลังจากที่ได้ฟื้นฟูอีกครั้งนั้นผู้ที่เป็นพระยาแรกนาในพิธีนั้นได้แก่ อธิบดีกรมการข้าว เทพีทั้งสี่จะคัดเลือกมาจากภริยาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตร และสหกรณ์
ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งโดยพระยาแรกนานั้นได้แก่ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนเทพีทั้งสี่จะพิจารณาคัดเลือกจากข้าราชการหญิงที่โสดในสังกัดกระทรวงเกษตร และสหกรณ์
พืชที่ใช้ในการประกอบพิธีจะมีทั้งหมด 40 ชนิดเรียกว่าว่า “บุพพัณณปรัณณชาติ” เนื่องจากประกอบด้วยข้าว ที่ในภาษาบาลีนั้นเรียกว่า บุพพัณณะ หรือ บุพพัณณชาติ และพืชประเภทธัญญพืชที่ในภาษาบาลี เรียกว่า อปรัณณ หรือ อปรัณชาติ เมื่อนำคำทั้งสองอย่างมารวมกันจึงเรียกว่า “บุพพัณณปรัณณชาติ”
ของที่ใช้ในการเสี่ยงทายประกอบด้วย ผ้านุ่งและของกิน 7 สิ่ง
ผ้านุ่งที่ใช้ในการตั้งสัตยาอธิฐานโดยพระยาแรกนานั้นเป็นผ้าลาย 3 ผืนแบ่งเป็นความยาวและคำทำนายดังนี้
ส่วนของกิน 7 สิ่งนั้นเสี่ยงทายโดยการกินของพระโค ประกอบไปด้วยคำทำนายดังนี้
โดยปัจจุบันพระราชพิธีพืชมงคลก็ยังคงมีอยู่เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เกษตรกร และเพื่อสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณ๊อันเก่าแก่สืบไป และคงไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจในเชิงประวัติศาสตร์ค่ะ